ช่วงนี้ฝนตกหนักต่อเนื่องแทบทุกวัน จนหลายพื้นที่เกิดปัญหาน้ำท่วม ซึ่งอย่างที่ทุกคนทราบกันดี เมื่อบ้านของเราถูกน้ำท่วม โครงสร้างแรกๆ ของบ้านที่จะโดนผลกระทบก่อนเลยคือ ผนังบ้านและพื้นบ้าน นั่นเอง

ในส่วนของผนังบ้าน คิดดูว่าขนาดแค่ฝนตกธรรมดาถ้าดูแลไม่ดีบ้านยังเกิดปัญหาความชื้น จนผนังสีลอกล่อน โป่งพอง เกิดเชื้อรา ตะไคร่น้ำ แต่นี่โดนน้ำท่วมน้ำขังเป็นวันๆ เดือนๆ ปัญหาที่ตามมาจึงย่อมรุนแรงกว่า แต่ไม่ต้องห่วงครับ วันนี้เบเยอร์มีเคล็ดลับดีๆ จากช่างสีมืออาชีพ ในการเตรียมบ้านรับมือน้ำท่วม และซ่อมแซมสีบ้านหลังน้ำท่วมมาฝากกัน

วิธีปกป้องสีบ้านก่อนน้ำท่วมยังไง ให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด

เผื่อใครกำลังจะสร้างบ้านใหม่ในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม หรืออยากจะเสริมความแข็งแกร่งให้สีบ้านกันความชื้น เนื่องความชื้นคือสาเหตุหลักที่ทำให้สีบ้านเสียจากน้ำท่วม ลองนำวิธีและผลิตภัณฑ์เหล่านี้ไปใช้ได้เลย

1. ทาน้ำยากันความชื้นก่อนลงสีรองพื้น

การทาน้ำยากันความชื้น เป็นวิธีป้องกันปัญหาสีจากความชื้นที่ดีที่สุด โดยเฉพาะปัญหาความชื้นบริเวณขอบชายล่างอาคารที่มาจากน้ำใต้ดิน (Rising Damp) พูดง่ายๆ ก็คือความชื้นที่มาจากพื้น ที่ทำให้เกิดปัญหาสีลอกล่อน โป่งพอง โดยแนะนำเป็นน้ำยากันชื้นสูตรน้ำ Beger Aqua Block W-009 , น้ำยากันชื้นสูตรน้ำมัน Beger Water Block W-010 เมื่อทาเสร็จแนะนำให้ทาทับด้วยสีรองพื้นอีกเที่ยว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะ และทำให้สีทับหน้าชัดขึ้น

2. ทาสีรองพื้นที่มีคุณสมบัติกันความชื้นสูง

สีรองพื้นทั่วไปทั้งสีรองพื้นปูนใหม่ หรือสีรองพื้นปูนเก่า จะมีระดับการทนความชื้นอยู่ที่ประมาณ 14% แต่ปัจจุบันจะมีสีรองพื้นที่เรียกว่า สีรองพื้นปูนอเนกประสงค์ที่สามารถทนความชื้นได้สูง 25 - 45% ได้แก่  Beger Water Block B-3100 , Beger Super Quick Primer B-2100 , Beger Pro Quick Primer B-1900 หรือ Beger Rain Quick Primer B-2900 ที่จะช่วยป้องกันปัญหาความชื้นได้มากกว่าเดิม นอกจากนี้ความพิเศษของสีรองพื้นปูน B-3100 ยังสามารถใช้ทาบนพื้นผิวปูนเปียกที่เพิ่งโดนฝนมาได้ทันทีอีกด้วยนะครับ 

เทคนิคน่ารู้ : ในการวัดค่าความชื้นเราสามารถวัดได้ด้วยเครื่องวัดความชื้น แต่หากใครไม่มีเครื่องวัดความชื้น ก็สามารถเช็กความชื้นได้โดยใช้เทปกาว และแผ่นพลาสติก แปะที่พื้นผิวปูน  1 คืน และดูว่ามีไอน้ำเกาะไหม โดยทั่วไปถ้ายังมีไอน้ำเกาะอยู่จะยังไม่สามารถทาสีได้เพราะถือว่ายังมีความชื้นเกิน 14% แต่ถ้าคุณต้องการทาสีเลยตอนนั้น ก็สามารถทาสีรองพื้นปูนอเนกประสงค์ทนความชื้นสูงอย่าง Beger B-3100 ได้เลยครับ

สำหรับพื้นผิวที่เป็น กระเบื้องหินทราย อิฐโชว์ หินกาบ ผนังปูนขัดมัน หรือหินทรายล้าง สามารถเคลือบทับด้วย Beger Water Repellent W-006 น้ำยาเคลือบใสกันเชื้อรา Beger A-100 หรือ Beger A-200 เสริมเกราะป้องกันขั้นสูงสุดแทนการใช้สีรองพื้นทนชื้นได้ด้วยนะ

วิธีซ่อมแซมแก้ไขปัญหาสีบ้านพังหลังจากโดนน้ำท่วม

เมื่อผนังบ้านโดนน้ำ เจอความชื้น ก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาได้ เพราะโดยทั่วไป สีทาบ้านไม่ได้ออกแบบมาให้เหมาะกับการแช่น้ำสักเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะทนแค่ฝนกับสภาวะอากาศ ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่ตามมาหลังน้ำท่วม เช่น พวกคราบเปื้อนต่างๆ อาจจะเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคชั้นดี ที่ถ้าปล่อยไว้อาจทำให้เราป่วยได้ ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ก็ควรรีบซ่อมแซมแก้ไขทันที ซึ่งมีขั้นตอนดังต่อไปนี้

สิ่งแรกที่ต้องทำก่อนจะลงมือซ่อมแซม นั่นก็คือ การสำรวจปัญหาและประเมินความเสียหาย ว่ามีจุดไหนบ้างที่ต้องได้รับการแก้ไข แล้วจึงดำเนินการไปตามแต่ละปัญหา

โดยทุกครั้งก่อนเริ่มปรับปรุงซ่อมแซม ไม่ว่าจะเกิดจากปัญหาอะไร ขั้นตอนแรกสุดของการซ่อมแซม คือ การทำความสะอาดพื้นผิวทุกครั้งก่อนเสมอ เพราะว่าพวกคราบ ฝุ่น หรือไขมัน จะทำให้ผลิตภัณฑ์ หรือสีที่ทาลงไปแสดงประสิทธิภาพได้น้อยลง แล้วจึงเริ่มเตรียมพื้นผิว และแก้ไข

ปัญหาคราบน้ำ คราบโคลน รอยเปื้อน หลังน้ำท่วม

ปัญหาคราบน้ำหลังน้ำท่วม เป็นปัญหาที่เห็นได้ชัดและพบบ่อยที่สุด คราบเหล่านั้นอาจจะเป็นคราบดิน คราบโคลน หรือคราบสิ่งสกปรกที่ปนอยู่ตอนน้ำท่วม ยิ่งถ้าผนังสีอ่อนยิ่งเห็นได้ชัด ถ้าพยายามฉีดน้ำเช็ดล้างแล้วยังไม่หาย วิธีแก้เดียวของปัญหานี้คือต้อง ทาสีใหม่

การทาสีใหม่ หลังจากที่โดนน้ำท่วมไปแล้ว ควรทาสีตามระบบคือ ทาสีรองพื้น 1 เที่ยว และสีทับหน้า 2 เที่ยว โดยสามารถทำได้ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้

1. ทำการเตรียมพื้นผิว ทำความสะอาดพื้นผิวให้ปราศจากฝุ่นละออง เศษสกปรก คราบต่างๆ ให้ได้มากที่สุด กรณีมีเชื้อราให้ใช้น้ำยากำจัดเชื้อราก่อน กรณีมีรอยแตกให้ทำการซ่อมแซมอุดโป๊วก่อน
2. ทาสีรองพื้นจำนวน 1 เที่ยว แนะนำเป็นสีรองพื้นปูนเก่า หรือสีรองพื้นปูนอเนกประสงค์ ที่มีเนื้อสีขาวที่จะช่วยเรื่องกลบมิดได้ดียิ่งขึ้น
3. ทาสีทับหน้าในเฉดที่ชอบจำนวน 2 เที่ยว แนะนำเป็นสีน้ำอะคริลิกที่จะแห้งไว และมีกลิ่นอ่อน เช่น สีเบเยอร์คูล ไดมอนด์ชิลด์ หรือสีเบเยอร์ชิลด์ แอนตี้ไวรัส โกลด์ไอออน

ปัญหาสีลอกล่อนโป่งพองหลังน้ำท่วม

ปัญหาสีอันดับหนึ่งที่เกิดจากความชื้นจากชายล่าง และจากภายใน อาจเกิดจากมีน้ำซึมเข้าไปในตัวผนัง และดันฟิล์มสีให้โป่งพองและลอกล่อน

วิธีการซ่อมแซม

• เคลียร์พื้นผิวให้เรียบร้อยด้วยการขูดลอกสีเดิมที่หลุดล่อนออกก่อน ถ้าไม่สามารถขูดลอกได้เองด้วยเกรียงหรือเครื่องขัดพื้นผิว กรณีที่เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ให้ใช้น้ำยาลอกสี Beger Unisoft จะช่วยให้ขัดลอกออกได้ง่ายขึ้น
• ลงน้ำยากันชื้นสูตรน้ำ Beger Aqua Block W-009 จำนวน 1-2 เที่ยว
• ทาสีรองพื้นที่สามารถกันความชื้นได้สูง เช่น สีรองพื้นเบเยอร์ ซุปเปอร์ ควิก ไพรเมอร์ บี-3100  จำนวน 1 เที่ยว
• ทาสีทับหน้าสูตรน้ำของเบเยอร์ตัวใดก็ได้ หากเป็นภายในแนะนำ BegerShield Anti-Virus Gold Ion ที่สามารถกำจัดโคโรนาไวรัส และไวรัส แบคทีเรียอื่นๆ ได้ ส่วนสำหรับภายนอกแนะนำเป็น BegerCool ที่สามารถกันร้อน สะท้อน UV ช่วยประหยัดค่าไฟได้ จำนวน 2 - 3 เที่ยว

ปัญหาเชื้อรา ตะไคร่น้ำ หลังน้ำท่วม

ปัญหานี้นอกจากจะทำให้บ้านไม่สวย ยังอาจทำให้คุณป่วยได้เลยนะ เพราะว่าเชื้อรา และตะไคร่น้ำ นับว่าเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคที่ควรรีบจัดการด่วนๆ ยิ่งเฉพาะถ้าเกิดภายในบ้านยิ่งอันตราย

วิธีการซ่อมแซม

• ขัดเชื้อรา ตะไคร่น้ำออกจากพื้นผิวให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ หรืออาจจะใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงมาช่วยก็ได้ ล้างทำความสะอาด และปล่อยให้พื้นผิวแห้งอย่างน้อย 1 วัน
• ลง น้ำยากำจัดเชื้อราและตะไคร่น้ำ เบเยอร์ โมลด์ฟรี เอ็ม-001 ให้ชุ่มทั่วบริเวณพื้นผิวจำนวน 1 เที่ยว แล้วทิ้งไว้ประมาณ 2-3 ชั่วโมง จึงทาสีรองพื้นทับ โดยไม่ต้องล้างออก
• ทาสีรองพื้น 1 เที่ยว และสีทับหน้าตามระบบอีก 2 - 3 เที่ยวต่อได้เลย

ปัญหาสนิมเหล็ก

น้ำกับเหล็ก เป็นของไม่ถูกกันอยู่แล้ว พอเกิดน้ำท่วมมาครั้งนึง พวกบรรดาส่วนที่เป็นโลหะในบ้าน เช่น รั้วเหล็ก ประตูเหล็ก ท่อเหล็กต่างๆ ต่างก็ได้รับผลกระทบเกิดปัญหา สนิม ถ้าเนื้อเหล็กยังดี ไม่ผุกร่อนเราก็สามารถซ่อมสีใหม่ และหยุดการเกิดสนิมได้ง่ายๆ ด้วยผลิตภัณฑ์สีทาเหล็กกันสนิม 

วิธีการซ่อมแซม

• ใช้กระดาษทรายเบอร์ละเอียด หรือเครื่องขัดหัวเจียร ขัดส่วนที่เป็นสนิม เป็นผงสนิม ออกให้ได้มากที่สุด และทำความสะอาดคราบสกปรก คราบฝุ่น
• กรณีสีเดิมลอกล่อน ให้ขูดสีเดิมที่หลุดลอกออกให้หมดก่อน 
• ใช้ผลิตภัณฑ์ สีทาเหล็ก 2IN1 ที่ผสมรองพื้นกันสนิมในตัว BegerShield Griptech 2 in 1 มาทาจำนวน 2 เที่ยว (เว้นระยะเวลาให้สีแต่ละเที่ยวประมาณ 30 นาที) ก็ได้เช่นเดียวกันครับ

สรุป

วิธีซ่อมสีบ้านหลังจากน้ำท่วมมี 2 ขั้นตอน

1. การสำรวจปัญหาและประเมินความเสียหาย
2. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเหมาะสม

การสั่งซื้อสินค้า

ท่านสามารถสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ได้ที่ ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายสีเบเยอร์เหล่านี้ หรือค้นหาร้านขายสีใกล้บ้านที่ท่านสะดวกได้จาก ค้นหาร้านขายสินค้าสีเบเยอร์ใกล้บ้านคุณ ที่นี่ 

หากเพื่อนๆ คนไหนมีข้อสงสัยหรืออยากได้คำแนะนำในการซ่อมสีบ้านจากน้ำท่วมเพิ่มเติม สามารถเพิ่มเพื่อน ที่ไลน์ @begerpaint ได้เลย เรามีทีมเทคนิคผู้เชี่ยวชาญด้านสีคอยให้บริการอยู่ครับ