ค้นหา

Tags

สีทาภายใน (27)ปัญหาสีทาอาคาร (25)กิจกรรม (18) สีทาบ้านภายนอก (16)เบเยอร์คูล (12)ปัญหาบ้านหน้าฝน (9)สีทาเหล็ก (9)begercool (8)ทาสีบ้านใหม่ (7)ปัญหาสีซ่อมแซมตกแต่งพื้นผิว (7)ไอเดียสี (7)ปัญหาสีงานไม้ (6)สีทาภายนอก (6)สีย้อมไม้ (6)สีรองพื้น (6)โลกร้อน (6)ไอเดียแต่งบ้าน (6)ทาสีบ้าน (5)สีงานไม้ (5)สีทาไม้ (5)สีห้องนอน (5)เชื้อรา (5)โปรโมชั่น (5)ตะไคร่น้ำ (4)รักษ์โลก (4)สีทาบ้านภายนอก (4)สีทาบ้านภายใน (4)สีน้ำมัน (4)สีบ้านเย็น (4)ห้องครัว (4)อุดโป๊ว (4)เฉดสียอดนิยม (4)ไอเดียแต่งห้อง (4) สีทาภายใน (3)color trends (3)กันรั่ว (3)ดูดวง (3)ทาสีบ้านภายใน (3)ทาสีหน้าฝน (3)ผนังปูน (3)ยูรีเทนทาไม้ (3)รีโนเวทบ้านเก่า (3)สิ่งแวดล้อม (3)สีทากันซึม (3)สีทาหลังคา (3)สีสร้างลาย (3)สีห้องนั่งเล่น (3)สีเหลือง (3)ฮวงจุ้ย (3)Begerpaint (2)begerxppg (2)beyours (2)color of the year (2)griptech2in1 (2)nordic (2)tile-bond (2)work from home (2)กันซึม (2)กาวยาแนวกระเบื้อง (2)คราบสนิม (2)คาร์บอน (2)งานสถาปนิก (2)ซ่อมบ้าน (2)ซีลแลนท์ (2)ทาสีบ้านเอง (2)ทาสีห้องนอน (2)ทินเนอร์ (2)บ้านลอฟท์ (2)บ้านสไตล์นอร์ดิก (2)ปัญหาคราบน้ำ (2)ฟิลม์สีลอกล่อน (2)ยูรีเทน 2K (2)รอยแตกร้าว (2)รักโลก (2)รีวิว (2)ฤกษ์มงคล (2)สีกันร้อน (2)สีทากันซึมดาดฟ้าหลังคา (2)สีทาบ้าน (2)สีทาเหล็ก 2 in 1 (2)สีทาเหล็กตระกูลเบเยอร์ (2)สีน้ำมันเคลือบเงาเหล็ก (2)สีนำโชค (2)สีบ้านมงคล (2)สีผสม (2)สีมงคล (2)สีรองพื้นปูนเก่า (2)สีลอฟท์ (2)สีส้ม (2)สีห้องนอนตามวันเกิด (2)สีอุตสาหกรรม (2)สีเบเยอร์ (2)สีแดง (2)หน้าฝน (2)หลังคา (2)อุดรอยรั่วทั่วทั้งบ้าน (2)เฉดสีทาภายใน (2)เซรามิกคูลลิ่ง (2)เทรนด์สี 2022 (2)แต่งห้องนอน (2) ปัญหาบ้านหน้าฝน (1) สีทาไม้ (1) เชื้อรา (1) เย็นเถิดชาวไทยใช้สีเบเยอร์คูล (1)60-30-10 (1)activity (1)art effect (1)bangkok design week (1)Bangpo wood street (1)beger (1)beger-hdc (1)carbon (1)carbonfootprint (1)ceramic cooling (1)color design (1)color trends 2022 (1)facebook (1)Gold Ion (1)Heavy Duty Coatings (1)lgbtq (1)Natural (1)pride month (1)renovate (1)review (1)sealant (1)super gold (1)super pearl (1)super white (1)sustainability (1)VOCs (1)y2k (1)กลิ่นอับ (1)กันร้อน (1)การนอนหลับ (1)กาวซีเมนต์ (1)กาวพียู (1)กาวยาแนว (1)กิจกรรมวันแม่ (1)คราบสนิมบนพื้นผิวโลหะ (1)คราบเกลือ (1)ความชื้น (1)ความหมายสี (1)คาร์บอนฟุตพริ้นท์ (1)คำนวณงบสีทาบ (1)คำนวนสีทาบ้าน (1)งบทาสีบ้าน (1)งานสถาปนิก66 (1)งานไม้แนวตั้ง (1)จิตใจ (1)จีน (1)ด่างปูน (1)ดาดฟ้ารั่ว (1)ตรุษจีน (1)ทาสีบ้านตามฮวงจุ้ย (1)ทาสีบ้านภายนอก (1)ทาสีฝ้า (1)ทาสีเหล็ก (1)ทาสีโครงหลังคา (1)ทาห้องสีชมพู (1)ธงสีรุ้ง (1)ธาตุเกิด (1)ธาตุไฟ (1)นอนไม่หลับ (1)นอร์ดิก (1)นัว (1)น้ำท่วม (1)น้ำปูนลอยหน้า (1)บางโพ (1)บ้านสีขาว (1)บ้านสีควันบุหรี่ (1)บ้านสีดำ (1)บ้านอับชื้น (1)บาร์บี้ (1)ประหยัดพลังงาน (1)ปลวก (1)ป้องกันคราบสนิม (1)ปัญหา (1)ปัญหางานไม้ (1)ปัญหาสีทองคำ (1)ปัญหาสีหน้าฝน (1)ปีชง (1)ปูนกาวเบเยอร์ (1)ผนังบวมพอง (1)ผนังลอกล่อน (1)ผนังไม้ (1)ผลิตภัณฑ์กำจักปลวก (1)ผิวปูนแห้ง (1)พลังสี (1)พาสเทล (1)พื้นเหนียว (1)พื้นไม้รอบสระน้ำ (1)ฟิล์มสีติดกัน (1)ฟิล์มสีบวมพอง (1)ฟิล์มสีเป็นเม็ด (1)ฟิล์มสีไม่ยึดเกาะ (1)ฟิล์มแตกเร็ว (1)มูจิ (1)มูเตลู (1)ยางไม้ซึม (1)ยาแนว (1)ยูนีเทน (1)ยูนีเทน 2K (1)ยูรีเทน 1K (1)รหัสสีเบเยอร์ (1)รองพื้นกันสนิม (1)รอยแตก (1)รักษโลก (1)รับเหมาทาสี (1)รั้วเหล็ก (1)รางวัล (1)ร้านขายสีออนไลน์ (1)รูตะปู (1)ลดหย่อนภาษี (1)วอลเปเปอร์ (1)วาเลนไทน์ (1)วิธีแก้กลิ่นอับ (1)สดใส (1)สนิม (1)สายมู (1)สีmbti (1)สีกันซึม (1)สีขายดี (1)สีขาวควันบุหรี่ (1)สีคาร์บอนต่ำ (1)สีงานเหล็ก (1)สีตกแต่งพิเศษ (1)สีต่าง (1)สีถูกโฉลก (1)สีทองคำ (1)สีทองคำด (1)สีทองคำลอกล่อน (1)สีทาบ้านที่ขาวที่สุด (1)สีทาบ้านหมดอายุ (1)สีทาหลังคากันร้อน (1)สีทาโครงหลังคา (1)สีทาไฟเบอร์ซีเมนต์ (1)สีทาไม้เทียม (1)สีธรรมชาติ (1)สีน้ำเงิน (1)สีบ้านถูกโฉลก (1)สีบ้านสไตล์นอร์ดิก (1)สีบ้านโทนเย็น (1)สีฝุ่นชอล์ก (1)สีพาสเทล (1)สีฟ้า (1)สียอดนิยม (1)สีรองพื้นปูนอเนกประสงค์ (1)สีรองพื้นปูนใหม่ (1)สีลดคาร์บน (1)สีลดคาร์บอน (1)สีลอกล่อน (1)สีวันแม่ (1)สีสงกรานต์ (1)สีสด (1)สีสร้างสมาธิ (1)สีหมดอายุ (1)สีห้อง (1)สีห้องนอนโทนร้อน (1)สีห้องนอนโทนเย็น (1)สีห้องยอดนิยม (1)สีห้องวัยรุ่น (1)สีห้องเด็ก (1)สีห้องโทนเย็น (1)สีเข้ม (1)สีเคลือบเงาเหล็ก (1)สีเบส (1)สีเบอร์ (1)สีเบเยอร์คูล (1)สีเป็นผง (1)สีเป็นฝุ่น (1)สีแห่งปี (1)สีโทนเย็น (1)สีโป๊ว (1)สเปรย์น้ำมันอเนกประสงค์ (1)สเปรย์หล่อลื่น (1)หลับยาก (1)หวานๆ (1)ห้องกว้าง (1)ห้องทำงาน (1)ห้องนอน (1)ห้องนอนลอฟท์ (1)ห้องนั่งเล่น (1)ห้องสีขาว (1)ห้องสีควันบุหรี่ (1)ห้องสีชมพู (1)ห้องสีชมพูพาสเทล (1)ห้องสีแดง (1)ห้องใต้หลังคา (1)หินอ่อน (1)อารมณ์ (1)อีซี่คลีนแอนด์แคร์ (1)ฮาโลวีน (1)เคมีภัณฑ์ก่อสร้าง (1)เจอคูลบอกที (1)เชื้อราบนไม้ (1)เทคนิคทาสี (1)เบเยอร์ ซูพรีม (1)เบเยอร์ วัน (1)เบเยอร์ชิลด์ (1)เฟอร์ไม้ฉ่ำรับสงกรานต์ (1)เย็นจริงทนจังในถังเดียว (1)เย็นเถิดชาวไทย (1)เย็นเถิดชาวไทยใช้สีเบเยอร์คูล (1)เหนียว (1)เหม็นอับ (1)เหล็กกัลวาไนซ์ (1)แก้ชง (1)แต่งห้อง (1)แต่งห้องนั่งเล่น (1)แถม (1)แม่และเด็ก (1)แลคเกอร์ (1)แสง (1)โกลด์ ไอออน (1)โควิด (1)โชคลาภ (1)โถงทางเดิน (1)โทนเย็น (1)โรคหน้าฝน (1)โหราศาสตร์ (1)โอ๊ต ปราโมทย์ (1)ไทล์บอนด์ (1)ไม้สน (1)ไม้เนื้ออ่อน (1)

คาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint) กับความสำคัญต่อองค์กรและสิ่งแวดล้อม

carbon footprint

โลกเดือด น้ำท่วม ผลผลิตลดลง ล้วนเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมที่สังคมโลกกำลังเผชิญร่วมกัน นี่เป็นผลกระทบจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของระดับภาคอุตสาหกรรมที่ปฏิเสธไม่ได้ ทำให้หลายองค์กรในวันนี้ต้องย้อนกลับไปรับผิดชอบสังคมในสิ่งที่เคยละเลย โดยใช้สิ่งที่เรียกว่า คาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint) เพื่อกำหนดแนวทางการใช้พลังงานและลดการปล่อยก๊าซอย่างมีประสิทธิภาพ

 

คาร์บอน (CO2) คืออะไร มีที่มาจากไหน?

ต้องเกริ่นก่อนว่า คาร์บอนหรือคาร์บอนไดออกไซด์ (Carbondioxide) เป็นหนึ่งในก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse Gas: GHG) ที่มีอยู่ในชั้นบรรยากาศ ซึ่งดูดซับสะสมรังสีอินฟราเรดจากแสงอาทิตย์และคายความร้อนบางส่วนออกมาสู่พื้นโลก หากมีก๊าซเรือนกระจกบางชนิดอย่างคาร์บอนมากเกินไปก็จะก่อให้เกิดความร้อนสะสมที่ชั้นบรรยากาศ โลกจึงมีอุณหภูมิสูงขึ้น นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศตามมาจนเป็นปัญหาทางสิ่งแวดล้อม ณ ปัจจุบัน 

ก๊าซเรือนกระจกที่เป็นตัวการสำคัญนั้นมักเกิดจากฝีมือของมนุษย์ในภาคครัวเรือน เศรษฐกิจ และอุตสาหกรรม จากการเผาไหม้เชื้อเพลิง การตัดไม้ทำลายป่า การหมักหมมของซากพืชและสัตว์ ของเสียจากภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม หรือปฏิกิริยาเคมีในภาคอุตสาหกรรม

Green House Gas

โดยก๊าซเรือนกระจกชนิดหลักที่ถูกควบคุมการปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศซึ่งกำหนดผ่านการร่วมมือของนานาประเทศในพิธีสารโตเกียว ได้แก่

  • คาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) เป็นชนิดที่ถูกปล่อยเข้าสู่ชั้นบรรยากาศมากที่สุดกว่า 70% จากการเผาไหม้เชื้อเพลิง การตัดไม้ทำลายป่า  
  • มีเทน (CH4) มีปริมาณมากเป็นอันดับ 2 ส่วนใหญ่จากการกำจัดขยะด้วยการฝังกลบ การเผาไหม้เชื้อเพลิงธรรมชาติ และการทำเกษตรกรรม ปศุสัตว์ 
  • ไนตรัสออกไซด์ (N2O) มักมาจากการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล การใช้ปุ๋ย และอุตสาหกรรมเคมีที่ใช้กรดไนตริก  
  • กลุ่มก๊าซอนุพันธ์ของฟลูออรีน อย่าง ไฮโดรฟลูออโรคาร์บอน (HFCs) เพอร์ฟลูออโรคาร์บอน (PFCs) ซัลเฟอร์เฮกซะฟลูออไรด์ (SF6) หรือไนโตรเจนไตรฟลูออไรด์ (NF3) ซึ่งมาจากภาคอุตสาหกรรมเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะสารทำความเย็น ตัวทำละลาย สารตั้งต้นการผลิต และผลผลิตพลอยได้จากกระบวนการต่าง ๆ 

 

คาร์บอนฟุตพริ้นท์ คืออะไร  มีกี่ประเภท?

คาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint) หรือรอยเท้าคาร์บอน คือ ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ถูกปล่อยออกมาเองโดยธรรมชาติและจากกิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์ ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อมก็ตาม อย่างการใช้พลังงาน การทำเกษตรกรรม การขยายตัวของภาคอุตสาหกรรม การจัดการของเสีย การขนส่งสินค้า หรือการตัดไม้ทำลายป่า 

โดยคาร์บอนฟุตพริ้นท์จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ดังนี้

1. คาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร (Carbon Footprint for Organization)

คาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร กล่าวถึงปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาจากกิจกรรมต่าง ๆ ขององค์กร ซึ่งมักถูกใช้เป็นตัวชี้วัดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของภาคอุตสาหกรรมในหน่วย “คาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (CO2eq)” เช่น กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (kgCO2eq) หรือตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (tCO2eq) 

ยิ่งมีปริมาณคาร์บอนฟุตปริ้นท์มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งส่งผลกระทบต่อโลกเรามากขึ้นเท่านั้น โดยแหล่งปล่อยก๊าซเรือนกระจกจะแบ่งขอบเขตออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่

  1. การปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยตรง (Direct Emissions) อย่างการเผาไหม้ของเครื่องจักร การใช้สารเคมีบำบัดน้ำเสีย หรือการใช้ยานพาหนะ  
  2. การปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากกิจกรรมการใช้พลังงาน (Energy Indirect Emissions) อย่างการซื้อพลังงานไฟฟ้า ความร้อน หรือไอน้ำมาใช้ในองค์กร
  3. การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมอื่น ๆ (Indirect Emissions) อย่างการใช้วัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ การเดินทางของพนักงานด้วยพาหนะอื่น การจัดสัมนานอกสถานที่หรือออกอีเวนท์

2. คาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ (Carbon Footprint for Product)  

คาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ หมายถึง ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ถูกสร้างออกมาตัวผลิตภัณฑ์หรือตลอดวัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์นั้น ๆ (Product Life Cycle) ตั้งแต่ขั้นตอนการได้มาของวัตถุดิบ การผลิต การจัดจำหน่าย การใช้งาน จนถึงการจัดการของเสีย ซึ่งจะวัดออกมาในหน่วยของคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าเช่นกัน

Carbon footprint

 

โลกและองค์กรได้ประโยชน์จากคาร์บอนฟุตพริ้นท์อย่างไร

เมื่อองค์กรทราบถึงคาร์บอนฟุตพริ้นท์ที่ปล่อยออกไปในแต่ละปีหรือโดยภาพรวม ก็จะสามารถวางแผนลดการปล่อยคาร์บอน ดูดซับคาร์บอนที่มีอยู่ และชดเชยคาร์บอน (Carbon Offsetting) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และมุ่งสู่เป้าหมายถัดไป คือ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิลดลงจนเป็นศูนย์ (Net Zero) 

อธิบายให้เข้าใจง่ายขึ้นก็คือว่า การศึกษาและนำคาร์บอนฟุตพริ้นท์มาใช้กับการดำเนินองค์กรจะนำไปสู่การตระหนักรู้และจัดการกับปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น เอื้อต่อการเกิดประโยชน์ทั้งต่อสังคม โลก และองค์กรในภาคอุตสาหกรรมอีกมาก ยกตัวอย่างเช่น

  • ประเมินปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาจากองค์กร และเข้าใจสาเหตุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่มีนัยสำคัญ เพื่อหาแนวทางลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์
  • นำปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ไปใช้ต่อยอดการวางแผนการดำเนินงานบริษัท การพัฒนาสินค้าที่สอดคล้องกับการรักษ์โลก การวางแผนลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก หรือชดเชยคาร์บอน
  • มีส่วนช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอันเป็นสาเหตุสำคัญของภาวะโลกร้อน โลกเดือด และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้ง่ายขึ้น
  • ตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและปัญหาสภาพอากาศ ตอกย้ำว่าการร่วมแรงร่วมมือของผู้บริโภคนั้นมีความหมาย 
  • ขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาในภาคอุตสาหกรรมด้วยกันเอง เพื่อให้ผู้บริโภคในสังคมได้รับประโยชน์สูงสุด  
  • ลดค่าใช้จ่าย ลดใช้ทรัพยากรและพลังงาน เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับองค์กร ทำให้เกิดการดำเนินงานเป็นไปอย่างยั่งยืนและได้เปรียบทางการค้า

จะเห็นได้ว่า คาร์บอนฟุตพริ้นท์ เป็นส่วนสำคัญอย่างมากที่จะช่วยขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมไปสู่การพัฒนาให้ดียิ่งกว่า โดยที่โลกไม่ถูกทำร้ายเพิ่มขึ้นเช่นวันวาน การลดปล่อยคาร์บอนหรือก๊าซเรือนกระจกจึงเป็นภารกิจเร่งด่วนที่ภาคธุรกิจอย่างเบเยอร์ยึดมั่นมาโดยตลอด ด้วยหวังว่าจะเป็นฟันเฟืองหนึ่งของการเสริมสร้างสังคม Carbon Neutrality และมุ่งสู่เป้าหมายใหญ่ Net Zero Emissions ร่วมกันในอนาคต

ปัจจุบันเบเยอร์เป็นองค์กรที่ได้รับมอบใบประกาศรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร (Carbon Footprint for Organization: CFO) จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรืออบก. ซึ่งตอกย้ำให้เห็นว่า การดำเนินงานของเบเยอร์นั้นใส่ใจโลก และพร้อมขับเคลื่อนสู่ธุรกิจสีเขียวอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน 

ยิ่งไปว่านั้น เบเยอร์ยังผ่านการรับรองฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ (Carbon Footprint of Product) และเป็นรายแรกในกลุ่มผลิตภัณฑ์สีทาอาคารที่ผ่าน ฉลากลดโลกร้อน (Carbon Footprint Reduction: CFR) จากองค์การอบก. ที่จะช่วยให้ผู้บริโภคทราบถึงปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ผลิตภัณฑ์ปล่อยออกมา ถือเป็นปัจจัยสำคัญประกอบการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคยุคใหม่ และผลักดันให้ภาคอุตสาหกรรมหันมาสนใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้นนั่นเอง


References:

  1. Overview of Greenhouse Gases | US Environmental Protection Agency
  2. ภาวะเรือนกระจก Greenhouse effect | กรมอุตุนิยมวิทยา
  3. คาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กรคือ | Thai Carbon Label
  4. คาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์คือ  | Thai Carbon Label
  5. แนวทางการประเมินประสิทธิภาพองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (Local Performance Assessment: LPA) เรื่อง รายงานข้อมูลปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก | องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน)) เรื่องGHG_LPA.pdf (tgo.or.th)
  6. Carbon Footprint รอยเท้าที่นักลงทุนควรรู้จัก | SET Investnow
SHARE :