น้ำท่วม (Flooding) หรือ อุทกภัย เป็นปัญหาทางธรรมชาติที่สร้างความเสียหายจำนวนมาก โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝน เจ้าของบ้านจึงควรเรียนรู้วิธีเตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วม เพื่อป้องกันน้ำท่วมบ้านให้ได้มากที่สุด เช่นเดียวกันกับวิธีแก้ไขปัญหาน้ำท่วมบ้าน เพราะหากต้านแรงน้ำไม่ไหว เราจะได้ข้ามผ่านกรณีที่แย่ที่สุดอย่างบ้านน้ำท่วมไปได้อย่างปลอดภัยทั้งคน ทั้งบ้าน บทความนี้จึงรวบรวมสิ่งที่ทุกคนควรรู้เพื่อสู้กับปัญหาน้ำท่วมมาฝากทุกคนกัน

สาเหตุของน้ำท่วม มีอะไรบ้าง

ต้นเหตุของน้ำท่วมมักมาจากฝนที่ตกหนักหรือตกอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน ร่วมกับปัจจัยทางธรรมชาติต่าง ๆ เช่น หย่อมความกดอากาศต่ำ พายุหมุนเขตร้อน ร่องความกดอากาศต่ำ ลมมรสุม น้ำทะเลหนุนสูง และภัยธรรมชาติอย่างแผ่นดินไหว สึนามิ หรือคลื่นซัดฝั่ง บางส่วนยังเป็นผลพวงมาจากการกระทำของมนุษย์อย่างการตัดไม้ทำลายป่า และการสร้างถนนหรือสิ่งปลูกสร้างกั้นทางน้ำไหล  

โดยแต่ละพื้นที่หรือลักษณะภูมิประเทศอาจเกิดปัญหาน้ำท่วมอาคารบ้านเรือนในลักษณะที่ต่างกันไป ยกตัวอย่างเช่น

• น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลันบริเวณที่ลาดเชิงเขา ที่ราบลุ่มใกล้ภูเขาสูงและป่าต้นน้ำ ซึ่งมวลน้ำจะไหลบ่าลงมาจากด้านบนสู่ที่ราบด้านล่าง เนื่องจากต้นไม้ไม่อาจดูดซับน้ำไหว 
• น้ำท่วมขัง ในแนวระนาบจากบริเวณที่สูงกว่าไปยังพื้นที่ต่ำกว่า บริเวณที่ราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำ ที่ลุ่มต่ำริมน้ำ ทางน้ำไหลผ่านในเขตชุมชน และพื้นที่ชายฝั่งทะเล อย่างในเขตเมืองก็มักเจอน้ำท่วมประเภทนี้เนื่องจากการระบายไม่ค่อยดี อีกกรณีอาจเกิดจากน้ำทะเลหนุนสูงบริเวณใกล้ชายฝั่ง  
• น้ำล้นตลิ่ง บริเวณที่ราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำ เนื่องจากมวลน้ำมีปริมาณมากเกินที่ลำน้ำหรือแม่น้ำจะรองรับได้ ระบายสู่ปากน้ำไม่ทัน จึงล้นออกมาสร้างความเสียหายต่อพื้นที่โดยรอบ

อีกหนึ่งสาเหตุหลักเอื้อน้ำท่วมที่หลายคนไม่ทราบก็คือ ตัวบ้านและรอบบ้านของเรา ไม่ว่าจะเป็นบ้านไม่มีกำแพงกั้นน้ำ บ้านอยู่ต่ำกว่าระดับพื้นถนน ท่อระบายน้ำอุดตัน หลังคาหรือผนังบ้านมีรอยรั่วซึม หรือบ้านวางระบบท่อไม่ดีจนมีช่องทางให้มวลน้ำเข้าสู่ภายในตัวบ้านเร็วขึ้นด้วย ซึ่งปัญหาเหล่านี้ส่วนหนึ่งเป็นสิ่งที่เจ้าของบ้านสามารถเตรียมตัวรับมือหรือวางแผนป้องกันน้ำท่วมไว้ก่อนได้ 

รู้ทัน เตรียมพร้อม รับมือก่อนน้ำท่วมบ้าน

การเตรียมพร้อมรับมือก่อนน้ำท่วมถือเป็นเรื่องจำเป็น โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมเป็นประจำทุกปี เพราะยิ่งเราเตรียมตัวดี เราก็จะปลอดภัยมากขึ้น ความเสี่ยงของน้ำท่วมบ้านก็จะลดลง เมื่อบ้านเสียหายน้อยลงก็ไม่เสียเวลาหรือเสียค่าใช้จ่ายในการรีโนเวทบ้านมากนัก ซึ่งคำแนะนำในการเตรียมพร้อมรับน้ำท่วมจะมีดังต่อไปนี้

1. ติดตามข่าวสถานการณ์น้ำท่วมและปริมาณน้ำในพื้นที่ จากหน่วยงานน่าเชื่อถือหรือหน่วยงานที่คอยอำนวยความสะดวกปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่อย่างใกล้ชิด และให้ปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด
2. สังเกตความผิดปกติหรือสัญญาณทางธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง เช่น ระดับน้ำในแม่น้ำ สีของลำน้ำ อาการแตกตื่นของสัตว์ป่า เพื่อเตรียมพร้อมรับมือหรืออพยพออกจากพื้นที่ไปสู่พื้นที่ปลอดภัย
3. กรณีพื้นที่เสี่ยงแนะนำเตรียมอุปกรณ์ป้องกันน้ำท่วมให้พร้อม โดยอาจวางกระสอบทรายหรือเสริมคันดินรอบบ้าน เพื่อปิดทางน้ำไหล ร่วมกับกำจัดขยะ วัชพืช หรือสิ่งกีดขวางบริเวณท่อน้ำหรือท่อระบายน้ำออก เพื่อป้องกันการอุดตัน 
4. ยกย้ายสิ่งของเครื่องใช้ขึ้นชั้นบนหรือที่สูง โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือเครื่องใช้ที่ทำจากไม้และเหล็ก เพื่อให้พ้นจากระดับน้ำท่วม หากมียานพาหนะแนะนำให้นำไปจอดไว้ในที่ที่มีบริการรับฝากและน้ำท่วมไม่ถึง
5. จัดเตรียมเอกสารสำคัญ สิ่งของจำเป็นต่อการยังชีพ และเครื่องอุปโภคบริโภค ไว้ให้เพียงพออย่างน้อย 3-5 วัน เช่น น้ำดื่มขวด อาหารแห้ง อาหารกระป๋อง ยารักษาโรค โทรศัพท์มือถือ ไฟฉาย ถ่าน แบตสำรอง เทียน ไฟแช็ก ถุงขยะ กระดาษชำระ รองเท้าบูท ห่วงยาง เป็นต้น
6. หากจำเป็นต้องอพยพควรควรปิดการทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด นำเทปกาวมาแปะรูปลั๊กไฟภายในบ้าน สับเบรกเกอร์ลง ล็อกประตูและหน้าต่างให้เรียบร้อยก่อนออกจากพื้นที่ 
7. จดบันทึกเบอร์โทรฉุกเฉินหรือสายด่วน ในพื้นที่อยู่อาศัย พื้นที่อำเภอ หรือพื้นที่จังหวัด สำหรับขอความช่วยเหลือน้ำท่วมตั้งแต่เนิ่น ๆ

3 วิธีแก้ปัญหาน้ำท่วมบ้านที่ถูกต้อง ปลอดภัย

น้ำท่วมบ้านเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับผู้ประสบภัยทุกคน แต่ที่ลำบากยิ่งกว่าก็คือ การรีโนเวทบ้านหรือการแก้ไขน้ำท่วมบ้าน ซึ่งมักมาพร้อมปัญหามากมาย ไม่ว่าจะเป็นผนังบวมพอง ลอกล่อน ผนังชื้น เชื้อรา ตะไคร่น้ำ หรือคราบสกปรกบนผนัง จึงจำเป็นต้องได้รับการแก้ไขอย่างถูกวิธี ปรับบ้านพังให้กลับมาสวยดังเดิม และเสริมการปกป้องบ้านให้ทนทานนานขึ้น โดยเบเยอร์มีหลักการ 3RE ที่จะมาช่วยแก้ไขปัญหาน้ำท่วมบ้านให้ง่ายขึ้น ดังนี้  

1) RECHECK - ตรวจสอบ

ตรวจสอบบ้านบริเวณที่แช่อยู่ในน้ำ โดยเฉพาะผนังบ้านและเสาปูน เนื่องจากเป็นจุดที่มีความชื้นสะสมอยู่สูง รวมไปถึงบริเวณฝ้าเพดานที่อาจได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม น้ำรั่วซึม หรือฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง

คำเตือน: ในระหว่างการตรวจสอบควรสวมอุปกรณ์ป้องกันและระมัดระวังระบบไฟฟ้าภายในบ้าน รวมถึงสัตว์มีพิษต่าง ๆ ที่อาจมาตามน้ำ เพื่อความปลอดภัยต่อร่างกาย  

2) REPAIR - ซ่อมแซม

เตรียมอุปกรณ์ใช้สำหรับการฟื้นฟูและซ่อมแซมบ้านให้พร้อม เช่น ถุงมือ รองเท้ายาง สายยางฉีดน้ำ หรือเครื่องฉีดน้ำความดันสูง จากนั้นเริ่มกำจัดฟิล์มสีที่เสียหายและทำความสะอาดผนังให้ได้มากที่สุด 

ฟิล์มสีที่เสียหาย ลอกล่อน บวมพอง ควรขูดออกด้วยเกรียง เครื่องขัดอเนกประสงค์ หรือน้ำยาลอกสี คราบสกปรก ดิน โคลนกำจัดด้วยน้ำอุ่นผสมน้ำยาทำความสะอาดพร้อมขัดด้วยแปรงขนแข็ง โดยอาจใช้น้ำยาฟอกขาวให้ทั่วแล้วออกแรงขัดคราบฝังลึกออก หลังจากนั้นให้ล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง

ที่สำคัญ: เนื่องจากน้ำท่วมมาพร้อมเชื้อรา เจ้าของบ้านจึงต้องไม่ลืมทาน้ำยากำจัดเชื้อราและตะไคร่น้ำก่อนทาสีบ้าน เพราะไม่เพียงทำให้บ้านดูเก่าทรุดโทรม ยังอาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาในระยะยาวได้ด้วย โดยเฉพาะโรคในระบบทางเดินหายใจและโรคภูมิแพ้ 

เบื้องต้นหลังจากเตรียมพื้นผิวเสร็จแล้ว แนะนำให้ทาน้ำยากำจัดเชื้อรา ตะไคร่น้ำ Beger MouldFree M-001 จำนวน 1 เที่ยวทิ้งไว้ให้ชุ่ม โดยไม่ต้องล้างออก แล้วจึงค่อยลงสีตามระบบที่ถูกต้อง  

3) REPAINT - ทาสีตามระบบ

เจ้าของบ้านควรทาสีบ้านตามระบบ คือ สีรองพื้น + สีทับหน้า เนื่องจากปัญหาน้ำท่วมทำให้บ้านได้รับความเสียหายมาก จึงจำเป็นอย่างมากที่จะต้องทาสีรองพื้นก่อนลงสีทับหน้า เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะ เสริมความทนทาน และทนต่อความชื้นให้ได้มากที่สุด

สีรองพื้นปูนอเนกประสงค์ทนชื้นสูงที่แนะนำก็เช่น Beger Water Block Primer B-3100 ทนชื้นสูงสุด 75% เหมาะสำหรับผนังปูนทุกชนิด หรือ Beger Pro Quick Primer B-1900 ทนชื้นสูง 40% เหมาะสำหรับปูนเก่าเสื่อมสภาพ 

สำหรับสีทับหน้าแนะนำให้ใช้สีที่มีคุณสมบัติตามต้องการ โดยเลือกให้เหมาะสมกับผนังบ้าน อย่างสีทาภายใน BegerShield AirFresh Gold iON คุณสมบัติช่วยฟอกอากาศให้สะอาดและกำจัดเชื้อโรคชนิดต่าง ๆ บนผนัง หรือสีทาบ้านภายนอก BegerCool DiamondShield 15 สีบ้านเย็น ทนทาน ประหยัดพลังงาน และยังปล่อยคาร์บอนต่ำด้วย

3RE ขั้นตอนฟื้นฟูบ้านให้คืนชีพ หลังน้ำลด

กรณีมีคำถามหรือข้อสงสัยในการรับมือก่อนน้ำท่วม แก้ปัญหาน้ำท่วมบ้าน รวมถึงอยากปรึกษาเกี่ยวกับการรีโนเวทบ้านหลังน้ำท่วม สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจากเบเยอร์โดยตรงได้ที่ Line: @begerpaint ในวันและเวลาทำการ