วิธีแก้ปัญหากลิ่นอับในห้อง ฟอกอากาศให้กลับมาสะอาด

วิธีแก้ไขปัญหากลิ่นอับในบ้าน

กลิ่นอับในห้อง เป็นหนึ่งในปัญหาบ้านหน้าฝนที่มักเกิดกับห้องที่มีปัญหาความชื้น หรือมีการระบายอากาศไม่ดี กลิ่นไม่พึงประสงค์นี้หากปล่อยไว้ นอกจากจะรบกวนการอยู่อาศัย ยังอาจทำให้สมาชิกในบ้านป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจได้อีกด้วย ดังนั้นควรแก้ไข สำหรับการแก้ไขบอกเลยว่าทำได้ไม่ยาก หากรู้สาเหตุของกลิ่นนั้น

 

สาเหตุของกลิ่นอับ

กลิ่นอับในห้องเกิดได้จากหลายสาเหตุ โดยมากเกิดจากกลิ่นของเชื้อราหรือแบคทีเรีย ในบริเวณที่มีความชื้นสูง เช่น ห้องน้ำ ฝ้าเพดาน ห้องนอน รวมไปถึงเกิดปัจจัยอื่น ๆ ได้แก่ 

  1. กลิ่นอับจากการรั่วซึมของระบบน้ำภายในบ้าน เช่น การรั่วของท่อน้ำในผนัง หรือการรั่วจากยาแนวห้องน้ำที่เสื่อมสภาพ
  2. กลิ่นอับจากการรั่วซึมภายนอกบ้าน เช่น จากรอยแตกร้าว รอยต่อ รูสกรูของหลังคา หรือเหตุผลที่คุณคาดไม่ถึงอย่างการปิดหน้าต่างไม่สนิทตอนฝนตก เป็นต้น
  3. กลิ่นอับจากแอร์ที่ทำงานไม่ปกติ อาจจะมีการรั่ว ท่อแอร์ตัน หรือจากการที่ไม่ได้ล้างแอร์เป็นเวลานาน
  4. กลิ่นอับจากวัสดุผ้าและไม้ในห้อง เช่น ผ้าม่าน พรมเช็ดเท้า รวมไปถึงเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากผ้าหรือไม้ เป็นต้น รวมไปถึงกลิ่นอับจากผ้าที่ชื้น หรือตากไม่แห้ง

 

สาเหตุของกลิ่นอับในบ้าน

 

แนวทางแก้ปัญหากลิ่นอับในห้อง

คุณสามารถขจัดกลิ่นอับในห้องได้ตามวิธีการดังต่อไปนี้  

 

1.ซ่อมแซมจุดที่มีปัญหาความชื้น

 

ตามที่บอกไปตั้งแต่ต้นว่า ความชื้นเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดกลิ่นอับชื้นในบ้าน หากจัดการความชื้นได้ ก็มีโอกาสทำให้บ้านเหม็นอับน้อยลงได้นั่นเอง

ความชื้นจากการรั่วของท่อน้ำในผนัง

การแก้ไข ปัญหานี้เราอาจจะแก้ไขด้วยตัวเองไม่ได้ เพราะว่ามีความซับซ้อนและอาจส่งผลถึงเรื่องโครงสร้าง แนะนำให้ปรึกษาช่างผู้เชี่ยวชาญมาซ่อมแซมจะดีกว่าครับ

ความชื้นจากยาแนวกระเบื้องห้องน้ำเสื่อมสภาพ

การแก้ไข การที่ยาแนวกระเบื้องเสื่อมสภาพ ทำให้น้ำสามารถซึมเข้าไปใต้กระเบื้องหรือใต้ปูนกาวได้ และเมื่อน้ำสะสมนานไปไม่ระบายออก ก็อาจเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรีย หรือราดำที่ปล่อยกลิ่นเหม็นอับออกมา โดยจะต้องขูดลอกทำการยาแนวกระเบื้องเดิมแล้วอุดยาแนวใหม่ครับ 

ความชื้นจากจากผนังที่มีรอยแตกร้าว 

การแก้ไข แนะนำให้ซ่อมแซมด้วยผลิตภัณฑ์อุดรอยร้าว หรือถ้าเป็นรอยแตกลายงา ควรใช้สีรองพื้น หรือสีทับหน้าที่ยืดหยุ่นได้สูง เพื่อป้องกันการแตกร้าวในอนาคต 

ความชื้นจากน้ำรั่วจากรอยต่อของส่วนต่าง ๆ

การแก้ไข อุดรอยต่อบริเวณที่พบเจอ เช่น รอยต่อบริเวณกรอบหน้าต่าง หรืออุดรอยร้าวบริเวณขอบวงกบ ด้วยผลิตภัณฑ์ซีลแลนท์ชนิดหลอด

ความชื้นจากชายล่างอาคาร 

การแก้ไข เราสามารถสังเกตปัญหานี้ได้จากรอยน้ำ การโป่งพอกลอกล่อน หรือคราบด่างขาวของพื้นผิว ที่อาจซ่อนอยู่ในจุดที่มองไม่เห็น เช่น บริเวณหลังตู้ หลังโซฟา โดยแนะนำให้เคลียร์พื้นผิวที่มีปัญหา แล้วทาน้ำยาบล็อกความชื้นจากนั้นให้ทาด้วยสีรองพื้นทนความชื้นสูง แล้วตามด้วยการทาสีทับหน้าตามระบบ

 

จุดที่มีปัญหาความชื้นในบ้าน

 

หมายเหตุ : หากพื้นผิวมีเชื้อราแล้วกำจัดเชื้อราตะไคร่น้ำ ให้ขัดทำความสะอาดส่วนที่มีเชื้อราออกให้มากที่สุด จากนั้นจึงทาด้วยน้ำยากำจัดเชื้อรา เบเยอร์ โมลด์ฟรี เอ็ม-001 ทิ้งไว้ให้แห้งโดยไม่ต้องล้างออก แล้วจึงทาสีตามระบบ

 

 

2. เปิดหน้าต่างระบายอากาศให้ถ่ายเท

การเปิดหน้าต่างจะช่วยระบายความชื้น ทำให้กลิ่นอับลดน้อยลงได้ แต่ในหน้าฝนที่ความชื้นสูงมาก อาจจะต้องเลือกเปิดช่วงเวลาที่ฝนไม่ตก เพื่อหลีกเลี่ยงการสะสมความชื้นที่ยิ่งทำให้ห้องอับมากขึ้นกว่าเดิม

 

3. เปิดเครื่องฟอกอากาศ หรือใช้สเปรย์ปรับอากาศ

เครื่องฟอกอากาศ เครื่องใช้ไฟฟ้าประจำบ้านในยุคฝุ่น PM 2.5 ที่ไม่ได้มีดีแค่กรองฝุ่น แต่สามารถกรองกลิ่นในอากาศได้ (ในบางรุ่น) สามารถช่วยขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ หรือใครที่ห้องอับไม่มาก สามารถฉีดเปรย์ปรับอากาศมาดับกลิ่นก็ได้เช่นกัน ซึ่งข้อดีของการใช้สเปรย์คือเราสามารถเลือกกลิ่นหอมที่ชอบได้ตามต้องการ

 

ใช้เครื่องฟอกอากาศ

 

4. หมั่นรักษาความสะอาดส่วนต่าง ๆ ภายในบ้าน

ความสะอาดคือหัวใจสำคัญที่จะช่วยให้บ้านไม่มีกลิ่นอับ ไม่นำผ้าที่ไม่แห้งสนิทมาเก็บในตู้ ทำความสะอาดครัวให้ไม่มีเศษอาหาร ล้างห้องน้ำเป็นประจำ 


 

5. ใช้สีทาภายในฟอกอากาศได้

หลายคนอาจจะไม่ทราบมาก่อนว่า สีทาบ้านก็สามารถช่วยขจัดกลิ่นต่าง ๆ รวมถึงกลิ่นอับในอากาศได้ ด้วยเทคโนโลยีพิเศษที่สามารถฟอกอากาศได้ เช่น เทคโนโลยีโฟโตแคตาลิส ที่มีในสีทาภายใน เบเยอร์ชิลด์ แอร์เฟรช แอนตี้ไวรัส โกลด์ไอออน ที่มีสารนานาไทเทเนียมผสมอยู่ โดยสารดังกล่าวจะถูกกระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยากับแสงไฟ ทั้งแสงอาทิตย์ หรือแสงจากหลอดไฟ แล้วเปลี่ยนเป็นประจุจำนวนมากในอากาศ ที่มีคุณสมบัติดักจับกลิ่นและสารอินทรีย์ที่เป็นอันตรายในอากาศได้ จึงช่วยฟอกอากาศทำให้อากาศสะอาดนั่นเอง

 

ยิ่งไปกว่านั้นในสีตัวนี้ยังมีคุณสมบัติยับยั้งการเกิดเชื้อรา เชื้อไวรัส และแบคทีเรียรวมกว่า 10 ชนิดบนผนังได้ จึงทำให้โอกาสเกิดกลิ่นอับจากเชื้อเหล่านี้น้อยลงไปอีก

ด้วย 5 วิธีข้างต้น กลิ่นแย่ ๆ ในอากาศก็จะถูกบรรเทาให้เบาบางลงได้ อย่างไรก็ตามวิธีแก้ไขกลิ่นอับในห้องที่ดีที่สุด คือการแก้ไขที่ต้นเหตุของกลิ่น หากแก้ไขได้ตรงจุด คุณก็จะไม่มีปัญหากลิ่นมากวนใจ จะฝนตกเท่าไรบ้านก็ไม่เหม็นอับครับผม

SHARE :
กรุณาเลือกหมวดหมู่การค้นหา และพิมพ์คำค้นหาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง