ทำไม “คู่สีทาบ้าน” ถึงเปลี่ยนบ้านธรรมดาให้ดูแพงได้
เคยไหม…เห็นบ้านบางหลังแล้วรู้สึกว่า “ทำไมดูแพงจัง ทั้งที่ดีไซน์ก็เรียบง่าย?”
เฉลยเลย — หนึ่งในเคล็ดลับนั้นคือ “การจับคู่สี” หรือ Color Palette ที่ลงตัวนั่นเอง
เพราะ บางครั้งความหรูหราไม่ได้มาจากของแพง…แต่เริ่มต้นจาก “สีที่คุณเลือกทา”
พูดง่ายๆ คือ การเลือก “คู่สี” ที่ใช่ = บ้านดูมีราคา + มีสไตล์ + ถ่ายรูปมุมไหนก็สวย
พาเลตคู่สีทาบ้านยอดนิยม ที่ช่วยยกระดับบ้านให้ดูแพงขึ้นทันตา
สูตรจับคู่สี ที่ดีไซเนอร์นิยมใช้ และเจ้าของบ้านจริงก็ต่างยืนยันว่า “ดูแพงขึ้นแบบเห็นได้ชัด

1. สีครีมงาช้าง + เทาอ่อน = หรูแต่ละมุน
โทนสีครีมงาช้างเรียกว่า “อมตะ” มาก เพราะให้ฟีลโมเดิร์นแต่ไม่แข็งจนเกินไปเหมาะกับบ้านสไตล์มินิมอลที่อยากดูอบอุ่น สบายตา แต่ยังแฝงความเรียบหรู
ทิปจากผู้เชี่ยวชาญ
ลองใช้สีเทาอ่อนกับฐานผนัง แล้วปัดครีมงาช้างบริเวณกรอบประตู หน้าต่าง หรือขอบบัว จะได้มิติของแสงเงาที่ดูแพงขึ้นแบบไม่ต้องเพิ่มงบตกแต่งเลย

2. สีขาว + ไม้ธรรมชาติ + ดำด้าน = เรียบหรูดูแพงแบบรีสอร์ท
สีขาวให้ความรู้สึกสะอาด โปร่ง โล่ง
ไม้ธรรมชาติเพิ่มความอบอุ่น ส่วนดำด้านช่วย “ล็อกความพรีเมียม” ให้ทุกอย่างดูนิ่งและแพงขึ้น
เหมาะกับบ้านลอฟต์หรือโมเดิร์นทรอปิคอลที่อยากมีความเรียบเท่แต่ไม่เย็นชาเกินไป

3. สีเบจ + ทองอ่อน + เทาเข้ม = สไตล์คลาสสิกหรูแบบยุโรป
สีเบจให้ความละมุน / ทองอ่อนเพิ่มความหรู / เทาเข้มช่วยบาลานซ์ให้ดูมีมิติ
แนะนำมากสำหรับบ้านสไตล์รีสอร์ท หรือคนที่ชอบ Mood & Tone แบบอบอุ่นแต่สง่างาม
ทิปเล็กๆ
ใช้สีทองอ่อนในส่วนของคิ้วบัว หรือขอบประตูไม้ จะเพิ่มความรู้สึก “Luxury” โดยไม่ต้องใช้วัสดุทองจริง!

4. เขียว + ขาวหม่น = บ้านสุขภาพดีมีชีวิตชีวา
สีเขียวคือโทนเขียวอมเทาที่มาแรงสุดในปี 2025 ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย เหมาะกับบ้านแนว Wellness Living หรือคนรักธรรมชาติ
เมื่อตัดกับสีขาวหม่น จะเกิดความกลมกลืนแบบ Eco-Lux ที่ดูทั้งแพงและรักษ์โลก

5. สีเทาอมฟ้า + น้ำตาลเข้ม = เรียบ เย็น สุขุม
เหมาะกับบ้านริมทะเลหรือบ้านพักตากอากาศ
สีเทาอมฟ้าให้ความรู้สึกสงบเย็นตา ส่วนน้ำตาลเข้มช่วยเพิ่ม “กรอบ” และความหนักแน่นให้โครงสร้าง
3 เคล็ดลับ “จับคู่สี” ให้บ้านดูแพงได้แบบมืออาชีพ
| ปัญหา | คู่สีที่แนะนำ | ผลลัพธ์ |
| บ้านพื้นที่เล็ก / แคบ | สีขาว + พาสเทลอ่อน | ดูกว้าง โล่งขึ้น |
| บ้านแดดแรง / ร้อน | เทาอ่อน + สีเย็น Beger Cool | ลดอุณหภูมิในบ้าน |
| บ้านมีสวนเยอะ | เขียวหม่น + ครีม | กลมกลืนธรรมชาติ |
| บ้านสองชั้นดูทึบ | โทนตัดอ่อน-เข้ม |
เพิ่มมิติ ไม่แบนเรียบ |
Pro Tip : อย่าลืมดู “ทิศทางแสงแดด” ของบ้านด้วย สีบางโทนอาจดูเข้มขึ้นหรืออ่อนลงตามเวลาในแต่ละวัน
จากมุมมองผู้เชี่ยวชาญ Beger
“สีที่ดูแพง ไม่ได้ขึ้นอยู่กับราคา…แต่ขึ้นอยู่กับการจับคู่และการเข้าใจอารมณ์ของพื้นที่”
- ภายนอก แนะนำ BegerShield 2In1 หรือ BegerCool DiamondShield 15 — สีทาบ้านกันร้อน สีบ้านเย็นช่วยลดค่าไฟ
- ภายใน ใช้ BegerShield AirFresh Gold Ion Zero VOCs สีปลอดสารระเหย ปลอดภัยกับเด็กและสัตว์เลี้ยง
บ้านดูแพงไม่ต้องใช้ของแพง แค่ “เลือกคู่สีให้ถูก”
- เลือกคู่สีที่สมดุลระหว่าง “อบอุ่น” กับ “เย็นตา”
- ใส่มิติแสง เงา และพื้นผิวด้วยโทนเสริม
- ใช้สีคุณภาพดีอย่าง Beger เพื่อให้เฉดสวยยาวนานและไม่เหลือง
FAQ เกี่ยวกับคู่สีทาบ้าน
Q1 : คู่สีทาบ้านแบบไหนที่ช่วยให้บ้านดูแพงขึ้นทันที?
A : โทนครีมงาช้าง–เทาอ่อน, เบจ–ทองอ่อน–เทาเข้ม และขาว–ดำด้าน–ไม้ธรรมชาติ เป็นพาเลตที่ช่วยให้บ้านดูหรูขึ้นทันที เพราะสร้างสมดุลระหว่างความอบอุ่นและความเรียบหรูในเวลาเดียวกัน
Q2 : บ้านขนาดเล็กควรใช้โทนสีอะไรให้ดูกว้างและสว่างขึ้น?
A : เลือกใช้สีโทนอ่อน เช่น ขาว พาสเทล หรือเทาอ่อน เพราะช่วยสะท้อนแสงได้ดี ทำให้พื้นที่ดูกว้าง โปร่ง และไม่อึดอัด
Q3 : สี Low VOCs คืออะไร และทำไมถึงเหมาะกับบ้านยุคใหม่?
A : Low VOCs คือ สารประกอบอินทรีย์ระเหยง่ายที่มีผลต่อระบบประสาท และทางเดินหายใจ สีที่มีสารระเหยต่ำ ไม่มีกลิ่นฉุน ช่วยลดมลพิษภายในบ้าน เหมาะกับบ้านที่ใส่ใจสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
Q4 : บ้านที่โดนแดดจัดควรเลือกใช้สีแบบไหนให้ทนและไม่ซีดเร็ว?
A : เลือกสีภายนอกสูตรกันร้อนที่ได้รับมาตราฐาน มอก. 2514 -2564 (สีอิมัลชันลดความร้อนจากแจงอาทิตย์) เช่น BegerShield 2In1 หรือ BegerCool DiamondShield 15 ที่สะท้อนรังสี UV ช่วยลดอุณหภูมิผนังและยืดอายุสีให้ยาวนานขึ้น
Q5 : ควรเลือกพาเลตสีอย่างไรให้เข้ากับสไตล์และวัสดุของบ้าน?
A : พิจารณาโทนหลักของวัสดุ เช่น หลังคา กระเบื้อง หรือไม้ แล้วเลือกคู่สีที่บาลานซ์ระหว่างโทนอุ่นและโทนเย็น เพื่อให้บ้านดูลงตัวและสวยกลมกลืนทั้งหลัง หรือขอรับคำปรึกษากับนักออกแบบมืออาชีพของเราโดยตรง สามารถติดต่อได้ที่ฝ่ายคัลเลอร์ดีไซน์ โทร 02-611-3434 ต่อ 260 หรือ Line ID : 0800619041

