
การทาสีกันซึมเป็นงานที่ช่วยปกป้องบ้านจากความชื้น รอยรั่วซึม และความเสียหายระยะยาว แต่สิ่งที่เจ้าของบ้านมักมองข้ามคือ “การเตรียมพื้นผิวก่อนทาสีกันซึม” ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญที่สุด เพราะแม้จะใช้สีกันซึมคุณภาพดีเพียงใด หากพื้นผิวไม่พร้อม สีจะไม่ยึดเกาะ หลุดล่อน และป้องกันน้ำได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ บทความนี้คือเทคนิคที่ถูกต้องตามหลักช่างมืออาชีพ และสามารถใช้ได้ทั้ง ดาดฟ้า ผนังปูนเก่า ผนังปูนใหม่ รวมถึงพื้นที่ที่เคยรั่วซึมมาก่อน
1) ทำความสะอาดพื้นผิวให้สะอาดที่สุด

พื้นผิวที่จะทาสีกันซึมต้อง แห้ง สะอาด ปราศจากฝุ่นและคราบเกาะ หากมีสิ่งสกปรก ฟิล์มสีเดิมลอกหลุด หรือคราบเชื้อรา จะส่งผลโดยตรงต่อการยึดเกาะของฟิล์มสีกันซึม
สิ่งที่ต้องทำ:
- ขูดสีลอกล่อนออกให้หมด
- ปัดฝุ่นออกจากพื้นผิว
- ล้างคราบสกปรกที่อาจทำให้สีไม่ติด
สำหรับบริเวณที่มีเชื้อรา ตะไคร่น้ำ
ควรใช้น้ำยาฆ่าเชื้อรา Beger MouldFree M-001 เพื่อหยุดการเติบโตของเชื้อราอย่างยั่งยืน ลดโอกาสเกิดซ้ำ และช่วยให้สีกันซึมยึดเกาะดีขึ้น
2) แก้ปัญหารอยแตกก่อนทาสีกันซึม

รอยแตกร้าวและลายงาเป็นศัตรูตัวสำคัญของงานกันซึม หากไม่ซ่อมให้เรียบร้อย น้ำจะยังสามารถซึมผ่านได้แม้จะทาสีกันซึมแล้ว
การซ่อมรอยแตกอย่างถูกต้อง
- ใช้ Beger Sealant อุดรอยแตกร้าว
- เลือกประเภทซีลแลนท์ให้เหมาะกับขนาดรอยแตก เช่น
- รอยแตกเล็ก: อะคริลิกซีลแลนท์
- รอยแตกขยายตัวตามอุณหภูมิ: โพลียูรีเทนซีลแลนท์
หลังการอุดโป๊วแล้วควรรอให้แห้งก่อนลงงานรองพื้นและงานสีกันซึมเสมอ
3) เลือกสีรองพื้นให้เหมาะกับสภาพพื้นผิว

การทาสีกันซึมบน “พื้นปูนเก่า” ต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เพราะพื้นผิวมักมีความชื้นสะสม และมีโครงสร้างเดิมที่อาจเสื่อมสภาพ
แนะนำให้ใช้
Beger Pro Quick Primer B-1900 รองพื้นปูนเก่า ทนชื้นสูง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะของสีกันซึม ทำให้ฟิล์มสีแข็งแรงและลดโอกาสการพองหรือหลุดล่อน
ประโยชน์ของการใช้รองพื้นปูนเก่า:
- เสริมการยึดเกาะกับพื้นผิว
- ป้องกันการดันตัวของความชื้นจากภายใน
- ทำให้สีกันซึมที่ทาทับมีประสิทธิภาพสูงสุด
4) ปูตาข่ายไฟเบอร์เมช (Fiber Mesh)

เทคนิคที่มืออาชีพเลือกใช้ในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะดาดฟ้า รอยต่อผนัง หรือตำแหน่งที่เกิดการขยายตัวของโครงสร้าง การใช้ Beger Fiber Mesh สำคัญมาก
เหตุผลที่ควรปู Beger Fiber Mesh ก่อนทาสีกันซึม
- เพิ่มความแข็งแรงของฟิล์มสีกันซึม
- ช่วยกระจายแรง ลดโอกาสเกิดรอยแตกใหม่
- เสริมการยึดเกาะของสีกันซึมกับพื้นผิว
- ยืดอายุการใช้งานของระบบกันซึม
เทคนิคคือทาชั้นแรกให้พอชุ่ม แล้ววางตาข่ายเมชลงบนพื้นที่ก่อนทาทับด้วยสีกันซึมอีกครั้ง
เริ่มขั้นตอนทาสีกันซึมตามระบบที่ถูกต้อง
เมื่อพื้นผิวพร้อมแล้วจึงเริ่มงานกันซึมจริง โดยทั่วไปจะประกอบด้วย
ขั้นตอนมาตรฐาน
- ทาสีกันซึมชั้นที่ 1
- รอแห้ง
- ปู Fiber Mesh (ถ้าจำเป็น)
- ทาสีกันซึมชั้นที่ 2
- ตรวจความเรียบทั่วทั้งพื้นที่
ตามชนิดสีกันซึมบางยี่ห้ออาจต้องทา 3 ชั้นเพื่อให้ความหนาของฟิล์มเพียงพอกับการป้องกันน้ำ
ทำไม “การเตรียมพื้นผิว” จึงสำคัญที่สุดในงานทาสีกันซึม?
เพราะ 80% ของปัญหา หลุดล่อน พอง บวม แตกร้าว เกิดจากพื้นผิวไม่ได้รับการเตรียมอย่างถูกต้อง ไม่ใช่เพราะสีกันซึมไม่มีคุณภาพ
หากทำขั้นตอนเตรียมพื้นผิวอย่างถูกต้อง จะได้ผลลัพธ์ดังนี้:
- ฟิล์มสียึดเกาะดีเยี่ยม
- ป้องกันน้ำได้ยาวนานหลายปี
- ลดการซ่อมแซมซ้ำ
- ประหยัดงบในระยะยาว
- บ้านปลอดปัญหาน้ำรั่วซึมอย่างแท้จริง
สรุป: เทคนิคการเตรียมพื้นผิวก่อนทาสีกันซึมที่ให้ผลดีที่สุดแบบมืออาชีพ
การเตรียมพื้นผิวคือขั้นตอนสำคัญที่สุดของงานทาสีกันซึม เพราะเป็นตัวกำหนดว่าฟิล์มสีจะยึดเกาะดี ทนทาน และป้องกันน้ำได้จริงหรือไม่ โดยพื้นผิวต้องแห้ง สะอาด ปราศจากสีลอก คราบสกปรก และเชื้อราทุกชนิด หากพบเชื้อราหรือตะไคร่น้ำควรทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อรา เช่น Beger MouldFree M-001
รอยแตกร้าวและลายงาต้องได้รับการซ่อมก่อนเสมอ โดยใช้ซีลแลนท์ที่เหมาะสมอย่าง Beger Sealant เพื่ออุดรอยแตกให้เรียบเนียน ป้องกันการซึมผ่านของน้ำ จากนั้นจึงทารองพื้นให้เหมาะกับสภาพพื้นผิว โดยเฉพาะพื้นปูนเก่าที่ควรใช้รองพื้นทนชื้นสูง เช่น Beger Pro Quick Primer B-1900 เพื่อเพิ่มการยึดเกาะและเสถียรภาพของฟิล์มสี
ในพื้นที่ที่เสี่ยงแตกร้าวหรือมีการขยายตัวของพื้นผิว เช่น ดาดฟ้า ควรปูตาข่ายไฟเบอร์เมช (Fiber Mesh) เพื่อเสริมความแข็งแรงและยืดอายุการใช้งานของระบบกันซึม เมื่อเตรียมพื้นผิวครบทุกขั้นตอนแล้วจึงเริ่มทาสีกันซึมตามระบบให้ครบจำนวนชั้นที่กำหนด ผลลัพธ์คือฟิล์มสีกันซึมที่ยึดเกาะแน่น ไม่หลุดล่อน ป้องกันน้ำได้มีประสิทธิภาพ และคงทนยาวนาน ลดปัญหาการซ่อมแซมซ้ำในอนาคตอย่างเห็นผล
ผลิตภัณฑ์แนะนะ
|
|
|
FAQ คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเตรียมพื้นผิวก่อนทาสีกันซึม
Q1 : ทำไมต้องเตรียมพื้นผิวก่อนทาสีกันซึม?
A1 : เพราะช่วยให้สีกันซึมยึดเกาะดี ไม่หลุดล่อน ป้องกันน้ำได้เต็มประสิทธิภาพ และยืดอายุการใช้งานในระยะยาว
Q2 : รอยแตกร้าวเล็ก ๆ ต้องซ่อมก่อนทาสีกันซึมหรือไม่?
A2 : ต้องซ่อมทุกกรณี เพราะรอยแตกเป็นจุดให้น้ำซึมผ่าน หากไม่อุดก่อนจะทำให้สีกันซึมไม่สามารถป้องกันการรั่วซึมได้อย่างสมบูรณ์
Q3 : พื้นปูนเก่าควรทาสีกันซึมอย่างไรให้ติดทน?
A3 : ควรทำความสะอาด อุดรอยแตก และทาสีรองพื้นปูนเก่าทนชื้นก่อน เพื่อเพิ่มการยึดเกาะและลดปัญหาสีลอกในอนาคต
Q4: จำเป็นต้องใช้ Fiber Mesh ก่อนทาสีกันซึมหรือไม่?
A4 : แนะนำให้ใช้ในจุดเสี่ยง เช่น ดาดฟ้าและรอยต่อผนัง เพราะช่วยเสริมความแข็งแรง ลดการแตกร้าว และยืดอายุการใช้งานของสีกันซึม



