หลายคนอาจทราบดีว่า สีเบเยอร์เป็นผู้นำสีด้านนวัตกรรมและรักษ์โลกมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะกับสีเบเยอร์คูล ที่ช่วยให้บ้านเย็น ประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่อีกหนึ่งจุดที่หลายคนอาจไม่รู้คือ สีเบเยอร์เป็นสีคาร์บอนต่ำด้วย ซึ่งคาร์บอนนี้เองที่เป็นตัวการก่อปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่าง ภาวะโลกร้อน เบเยอร์ที่เล็งเห็นความสำคัญของปัญหานี้จึงพัฒนาสีเบเยอร์จนกลายเป็นสีคาร์บอนต่ำ มาดูกันว่าเราทำได้อย่างไร
คาร์บอน (Carbon dioxide: CO2) เป็นหนึ่งในก๊าซเรือนกระจกที่ส่งผลให้อุณหภูมิโลกร้อนขึ้น นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงและแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศ ไม่ว่าจะไฟป่า น้ำท่วม แห้งแล้ง ธารน้ำแข็งละลาย และยังส่งผลต่อสุขภาพของมนุษย์เราด้วย นี่จึงเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมที่กระทบต่อเราทุกคน ซึ่งเราในทุกภาคส่วนควรร่วมมือกันลดคาร์บอนตั้งแต่ตอนนี้ ก่อนที่โลกจะถูกทำร้ายจนสายเกินไป
ทำไมสีเบเยอร์ถึงเป็นสีคาร์บอนต่ำ?
ตลอดขั้นตอนการผลิตไปจนสินค้าถึงมือผู้บริโภคนั้น เบเยอร์คิดค้นและพัฒนาให้สินค้าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยพยายามผลักดันการปล่อยคาร์บอนให้ต่ำเท่าที่จะทำได้ จนกล้าพูดได้ว่า สีเบเยอร์เป็นสีคาร์บอนต่ำอย่างแท้จริง ไปเจาะลึกกันอีกนิดดีกว่าว่าเราทำได้ยังไง!
กระบวนการผลิตที่รักษ์โลกตั้งแต่ต้นจนจบ
ไม่ว่าจะช่วงก่อนการผลิต ระหว่างการผลิต หรือหลังการผลิตสีเบเยอร์ ก็ล้วนมีส่วนช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ทั้งสิ้น โดยเรายึดการทำงานที่ยั่งยืนตามหลัก ESG (Environmental, Social, and Governance) ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดจำกัดในการสร้างสินค้าคุณภาพสูงที่เป็นสีคาร์บอนต่ำ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้ ดังนี้
- คัดสรรวัตถุดิบทางเลือกจากธรรมชาติจากแหล่งคาร์บอนต่ำ บางส่วนผลิตเองภายในโรงงานอย่างสารยึดเกาะ (Binder)
- เข้าสู่กระบวนการผลิตสินค้าด้วยระบบสุญญากาศ “AVID” รายแรกในเอเชีย ที่ปราศจากของเสีย หมุนเวียนนำน้ำเสียกลับมาใช้ได้ 100% ไร้ฝุ่น ควัน มลพิษในอากาศ ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่า พร้อมกับลดการใช้พลังงาน เวลา และแรงงาน
- ระบบจัดการบำบัดน้ำที่มีประสิทธิภาพ น้ำเสียจากกระบวนการผลิตเป็นศูนย์ ลดการใช้และปล่อยสารเคมีบำบัดน้ำเสียลงสู่แม่น้ำหรือทะเล ไม่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศในน้ำทั้งสัตว์น้ำ สัตว์ทะเล
- ลดใช้พลังงานไฟฟ้าและทรัพยากรธรรมชาติที่มีส่วนก่อก๊าซเรือนกระจก ใช้พลังงานสะอาดอย่างไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์มาทดแทน
- จัดเก็บสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพผ่านระบบคอมพิวเตอร์ ขนส่งและกระจายสินค้าด้วยรถไฟฟ้า EV โดยคิดคำนวนเส้นทางที่ประหยัดพลังงานด้วยระบบ AI
มองไกลถึงวิธีจัดการหลังใช้เสร็จแล้วก็ยังรักษ์โลกอยู่
เริ่มตั้งแต่ต้นน้ำ ไม่ใช่สุดแค่ปลายน้ำ แต่ยังสามารถก้าวกลับไปสู่จุดเริ่มต้นน้ำได้ เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนอย่างยั่งยืนและคุ้มค่ามากที่สุด
โดยเราใส่ใจการจัดการ ฟื้นฟู และช่วยลดปริมาณของเสียหรือขยะหลังการใช้งานด้วย ผ่านการับคืนถังสี เพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ (Reuse) นำไปรีไซเคิล (Recycle) เพื่อเป็นถังสีใบใหม่หรือส่วนประกอบในวัสดุอื่น ๆ รวมถึงล้างถังสีและบำบัดน้ำสีที่เหลือ (Recovery) เพื่อนำทรัพยากรน้ำไปใช้อย่างเกิดประโยชน์มากเท่าที่จะทำได้
การันตีสีคาร์บอนต่ำด้วย Certification จากหน่วยงานชั้นนำ
ใคร ๆ ก็พูดได้ว่าเป็นสีคาร์บอนต่ำ แต่รางวัลและมาตรฐานรับรองจากหน่วยงานหรือสถาบันชั้นนำจะเป็นตัวยืนยันถึงคุณภาพและการันตีว่าเป็นผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำตัวจริง ซึ่งปัจจุบันเบเยอร์ได้รับฉลากทางด้านทรัพยากร สิ่งแวดล้อม และพลังงานมามากมาย เช่น
- ฉลากลดโลกร้อนหรือฉลากทอง
- ฉลากลดคาร์บอน
- ฉลากเขียว
- ฉลาก LEED
- ฉลาก WELL
- ฉลาก BIO-BASED
- ฉลากอุตสาหกรรมเขียว
นอกเหนือจากการผลิตสินค้าคาร์บอนต่ำ การจัดการหลังใช้งาน และการมีมาตรฐานรับรอง เบเยอร์ยังมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ป่าและใส่ใจสิ่งแวดล้อมผ่านโครงการปลูกต้นไม้ทดแทน เพื่อเพิ่มปริมาณออกซิเจนสู่ชั้นบรรยากาศให้มากขึ้นด้วย โดยตั้งเป้าพัฒนาในทุกมิติอย่างต่อเนื่องเพื่อเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์หรือ Net Zero ในอนาคต