Beger Super Hi-Shield for Interior

วิธีการใช้ • อุปกรณ์ : แปรง ลูกกลิ้ง และเครื่องมือหลังใช้งานทำความสะอาดด้วยน้ำสะอาด • การเจือจาง : น้ำสะอาดหรือน้ำประปา • สภาพแวดล้อมขณะใช้งาน : พื้นผิวคอนกรีตไม่ควรมีความชื้นเกิน 14% • การผสมก่อนการใช้งาน : ผสมน้ำสะอาด 15-20% โดยปริมาตร ระบบการทาสี • การเตรียมพื้นผิว กรณีพื้นผิวปูนใหม่ : ทิ้งให้พื้นผิวปูนแห้งสนิทอย่างน้อย 1 เดือน หรือมีความชื้นน้อยกว่า 14% กรณีพื้นผิวปูนเก่า : ขัดล้างสีเดิมที่เสื่อมสภาพออก บริเวณที่มีเชื้อรา หรือตะไคร่น้ำต้องขัดล้างด้วย เบเยอร์ โมลด์ฟรี เบอร์ เอ็ม-001 ข้อแนะนำ: ควรล้างทำความสะอาดพื้นผิวทุกชนิดให้แห้งสนิท ปราศจากฝุ่นละออง เชื้อรา ตะไคร่น้ำ เศษซีเมนต์ คราบน้ำมัน และสิ่งสกปรกต่างๆ ซ่อมแซมตกแต่งรอยแตกร้าวบนพื้นผิวที่มีขนาดเล็กกว่า 1 มม. ด้วยสีโป๊วเบเยอร์ อะคริลิกฟิลเลอร์ (เอฟ-200) หรือใช้ เบเยอร์อะคริลิก ซีลแลนท์ (เอฟ-001) ซ่อมรอยแตกร้าวที่มีขนาดตั้งแต่ 1 มม. - 1 ซม. การเตรียมพื้นผิวที่ดีโดยไม่มีส่วนที่เป็นฝุ่นหรือหลุดล่อนจะทำให้ได้การยึดเกาะของ เบเยอร์ ซุปเปอร์ ไฮ-ชิลด์ ดีที่สุด • ระบบสี สำหรับพื้นผิวปูนใหม่ * สีรองพื้น : เบเยอร์ ซุปเปอร์ ไฮ-ชิลด์ สีรองพื้นปูนใหม่กันด่างสำหรับภายนอกและภายใน เอส-8888 จำนวน 1 เที่ยว * สีทับหน้า : เบเยอร์ ซุปเปอร์ ไฮ-ชิลด์ ชนิดด้าน สำหรับภายใน จำนวน 2 เที่ยว สำหรับพื้นผิวปูนเก่า * สีรองพื้น : เบเยอร์ เคลียร์ คอนแทค ไพรเมอร์ บี-1500 จำนวน 1 เที่ยว * สีทับหน้า : เบเยอร์ ซุปเปอร์ ไฮ-ชิลด์ ชนิดด้าน สำหรับภายใน จำนวน 2 เที่ยว