หลายคนอยากมีบ้าน แต่อาจสู้บ้านมือหนึ่งไม่ไหว ทางเลือกที่หลายคนเลือกก็คือการซื้อบ้านมือสอง ซึ่งมาพร้อมกับการรีโนเวทบ้านมือสองอย่างเลี่ยงไม่ได้ แล้วเจ้าของบ้านมือใหม่อย่างเรา ๆ ต้องรู้อะไรก่อนจะรีโนเวทบ้านบ้าง เบเยอร์มีคำตอบมาฝากกัน
5 เรื่องต้องรู้ก่อนรีโนเวทบ้านมือสอง
อาจมีหลายประเด็นที่คนอยากมีบ้านเป็นกังวล แต่ข้อหลัก ๆ ที่เราอยากให้ทุกคนใส่ใจให้มาก เพื่อให้การรีโนเวทบ้านมือสองเป็นไปอย่างราบรื่นและไม่เกินงบประมาณที่ตั้งไว้ จะมีดังนี้
1. อ่านข้อกฎหมายในการรีโนเวทบ้านมือสอง
การรีโนเวทนั้นอาจเป็นซ่อมแซม ดัดแปลง หรือต่อเติมก็ได้แล้วแต่สภาพบ้านและการออกแบบบ้านที่เจ้าของบ้านคนใหม่ต้องการ ทว่าไม่ใช่ทุกการรีโนเวทจะสามารถทำได้เลยโดยไม่ต้องขออนุญาตและไม่ขัดต่อข้อกฏหมาย โดยเฉพาะหากเราดัดแปลงหรือต่อเติมอย่างโรงจอด ห้องเก็บของ หรือครัวนอกบ้าน ซึ่งหากเราไม่ศึกษาให้ดีและไม่ปฏิบัติตาม ก็อาจมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ ตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 มาตรา 21 และ 39 ทวิ
ซึ่งตามพระราชบัญญัติแล้ว เราจะต้องได้รับอนุญาตในการดัดแปลง ต่อเติมอาคารจากพนักงานท้องถิ่นก่อน และต้องยื่นแบบแปลน รายชื่อสถาปนิกและวิศวกรคุมงานให้พนักงานด้วย แต่หากประเมินแล้วสภาพบ้านมืองสองยังดีอยู่และต้องต่อเติมเล็กน้อยโดยเข้าเกณฑ์ดังต่อไปนี้ก็มีข้อยกเว้นที่ไม่ต้องขออนุญาตอยู่เช่นกัน
- การเปลี่ยนโครงสร้างของอาคารโดยใช้วัสดุขนาด จำนวน และชนิดเดียวกับของเดิม เว้นแต่การเปลี่ยนโครงสร้างของอาคารที่เป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก คอนกรีตอัดแรง หรือเหล็กโครงสร้างรูปพรรณ
- การเปลี่ยนส่วนต่าง ๆ ของอาคารที่ไม่เป็นโครงสร้างของอาคาร โดยใช้วัสดุชนิดเดียวกับของเดิมหรือวัสดุชนิดอื่น ซึ่งเป็นการเพิ่มน้ำหนักให้แก่โครงสร้างของอาคารเดิมส่วนหนึ่งส่วนใดเกิน 10%
- การเปลี่ยนแปลง การต่อเติม การเพิ่ม การลด หรือการขยายซึ่งลักษณะขอบเขต แบบ รูปทรง สัดส่วน น้ำหนัก เนื้อที่ส่วนต่าง ๆ ของอาคารที่ไม่เป็นโครงสร้างของอาคาร ซึ่งไม่เป็นการเพิ่มน้ำหนักให้กับโครงสร้างของอาคารเดิมส่วนหนึ่งส่วนใดเกิน 10%
- การลดหรือขยายเนื้อที่ของพื้นที่ชั้นใดชั้นหนึ่งให้มีเนื้อที่น้อยลงหรือมากขึ้นรวมกันไม่เกิน 5 ตารางเมตร โดยไม่ลดหรือเพิ่มจำนวนเสาหรือคาน
- การลดหรือการขยายเนื้อที่ของหลังคาให้มีเนื้อที่มากขึ้นรวมกันไม่เกิน 5 ตารางเมตร โดยไม่ลดหรือเพิ่มจำนวนเสาหรือคาน
2. เช็คโครงสร้างบ้านและสภาพโดยรอบบ้าน
ไม่ใช่บ้านมือสองทุกบ้านจะมีสภาพดีเยี่ยมคล้ายบ้านมือหนึ่ง เจ้าของบ้านมือใหม่จึงควรตรวจสอบโครงสร้างของบ้านทั้งแนวดิ่งและแนวราบก่อนเสมอ เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีปัญหาในภายหลังเมื่อเข้าอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นบ้านทรุด บ้านเอียง ดินรอบบ้านทรุด โครงเหล็กเป็นสนิม น้ำรั่วซึมตามปูนที่แตกร้าว รวมถึงงานระบบน้ำและไฟฟ้าในบ้าน
3. กำหนดงบประมาณและเลือกผู้รับเหมาที่เชี่ยวชาญ
การรีโนเวทบ้านมือสองจำเป็นต้องกำหนดงบประมาณและสำรองเงินไว้ให้ดี เพราะอาจมีค่าใช้จ่ายมากมายที่เราคาดไม่ถึง ทั้งค่าต่อเติม ค่าซ่อม ค่าตกแต่งภายใน ค่างานระบบ ค่าช่าง ค่าวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้าง ค่าเฟอร์นิเจอร์ หรือค่าข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ
แม้บ้านมือสองบางส่วนจะถูกรีโนเวทโดยเจ้าของคนก่อนมาแล้ว ทำให้ทุ่นเรื่องค่าใช้จ่ายไปได้ส่วนหนึ่ง แต่อาจยังรีโนเวทได้ไม่สมบูรณ์ตามที่เราต้องการ อาจยังออกแบบหรือเลือกโทนสีบ้านภายในและภายนอกไม่ถูกใจเรา จึงควรกันเงินสำรองและควบคุมงบให้อยู่ในเกณฑ์ที่ตั้งไว้นั่นเอง
ที่สำคัญ ควรเลือกผู้รับเหมาที่มีความเชี่ยวชาญงานดีกว่าเลือกช่างทั่วไป เพื่อแก้ปัญหาบ้านให้จบในครั้งเดียว ไม่ปล่อยให้เป็นปัญหาบ้านเรื้อรัง ซึ่งบางครั้งเราอาจต้องยอมเสียค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น เพื่อแลกกับบ้านที่เรียบร้อย สวยงาม ไร้ปัญหา ไม่ต้องนั่งแก้หรือซ่อมแซมบ่อยครั้ง
4. เลือกวัสดุก่อสร้างหรือสีทาบ้านให้เหมาะสม
บ้านมือสองนั้นเสื่อมสภาพตามกาลเวลา จึงจำเป็นต้องจัดการวัสดุหรือส่วนต่าง ๆ ของบ้านที่เสื่อมสภาพออกไป แทนที่ด้วยของใหม่ที่ดีกว่า หลายคนเน้นเปลี่ยนเพื่อความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตอย่างระบบ Smart Home การประหยัดค่าไฟฟ้าในระยะยาวอย่างโซลาร์เซลล์หรือสีบ้านเย็น
หรือเปลี่ยนมาใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม คาร์บอนต่ำ ซึ่งมีคุณภาพสูงและอายุการใช้งานยาวนานมากขึ้นอย่างผลิตภัณฑ์ที่มีฉลากสิ่งแวดล้อมรับรองอย่างฉลากเขียวหรือฉลากลดคาร์บอน แม้จะมีราคาที่สูงกว่าแต่ก็คุ้มค่ากว่าเมื่อเทียบประโยชน์ที่ได้รับกลับมาในอนาคต
หนึ่งสิ่งที่ควรให้ความสำคัญก็คือ การเลือกสีทาบ้าน เพราะถือเป็นเกราะป้องกันบ้านที่ทุกบ้านต้องมี เพื่อสู้กับทั้งความร้อน แสงแดด รังสียูวี สภาวะอากาศในแต่ละฤดู ไปจนถึงมลพิษและสิ่งสกปรก สีเบเยอร์คูลถือเป็นสีบ้านเย็นที่ช่วยตอบโจทย์ในจุดที่หลายคนกังวลได้ทุกฤดูไม่ว่าจะร้อนหรือหนาว ด้วยนวัตกรรม AeroTech ผสานกับเทคโนโลยี Ceramic Cooling จาก NASA ช่วยให้บ้านเย็นขึ้น ทนกว่า
ผ่านหลักการ 3 องค์ประกอบอย่าง REI ได้แก่
- สะท้อนความร้อน (Reflection) สูงสุด 97.5%* ลดการสะสมของอุณหภูมิพื้นผิวผนังสูงสุด 9.9 องศา และยังลดอุณหภูมิในบ้านได้ถึง 2-6 องศา**
- คายความร้อน (Emission) ได้เร็วกว่าสีทาบ้านทั่วไป ไม่สะสมความร้อนที่พื้นผิวผนัง เพิ่มความทนทานให้ผนังบ้านและยืดอายุการใช้งานได้ดียิ่งกว่า
- เสมือนฉนวนกันร้อน (Insulation) โดยต้านทานและลดความร้อนไม่ให้เข้าสู่ตัวบ้าน ช่วยประหยัดพลังงาน ลดค่าไฟกว่า 32%*** ในทุกเฉดสี
*ผลทดสอบโดยสถาบันทดสอบด้านรังสีและและความร้อน OTM Solutions ประเทศสิงคโปร์
**ผลทดสอบจากห้องปฏิบัติการ เบเยอร์ จำกัด
***ผลทดสอบจากสถาบันการศึกษาและสถาบันวิจัยด้านพลังงานชั้นนำภายในประเทศ
5. เปลี่ยนหรือซ่อมเฟอร์นิเจอร์เก่าให้กลับมาสวย
บ้านมือสองที่รีโนเวทมาให้แล้วอาจมาพร้อมกับเฟอร์นิเจอร์เก่า หากเป็นของเก่าสภาพดีก็แนะนำให้ซ่อมแซ่มก่อน จะได้ไม่เกินงบประมาณที่ตั้งไว้ โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์เหล็กหรือไม้ ซึ่งสามารถขัดฟิล์มสีเก่าออกแล้วทาสีใหม่ทับไปได้
หากเป็นเฟอร์นิเจอร์ใหม่ที่อาจจะยังไม่ถูกใจเรา แนะนำให้เลือกเฟอร์นิเจอร์มาเปลี่ยนใหม่โดยพิจารณาจากธีมหรือโทนสีของห้อง เพื่อให้เข้ากันมากที่สุด แต่ถ้ามีไอเดียออกแบบห้องที่บรรเจิด เจ้าของบ้านก็สามารถทาสีห้อง แต่งธีมห้อง และผสานเฟอร์นิเจอร์อันหลากหลายเข้าไป เพื่อบ่งบอกความเป็นตัวเราที่สุดก็ได้เช่นกัน
ข้อควรระวังเมื่อรีโนเวทบ้านมือสอง
ความชำนาญและประสบการณ์เรื่องบ้านเป็นสิ่งที่เจ้าของบ้านมือใหม่ยังขาดในการรีโนเวทบ้านมือสอง หมายความว่า หากเราลงมือลงแรงด้วยความไม่รู้หรือไม่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก็อาจเสี่ยงบ้านพังแทนที่จะเป็นบ้านปัง เสียเงิน เสียเวลา แทนที่จะควบคุมให้ไม่เกินงบและบ้านเสร็จทันเวลาพร้อมเข้าอยู่
ดังนั้น เจ้าของบ้านจึงควรปรึกษาผู้รับเหมาหรือผู้เชี่ยวชาญเรื่องการรีโนเวทบ้านก่อนเริ่มขั้นตอนรีโนเวท โดยเฉพาะงานโครงสร้างบ้าน และงานระบบต่าง ๆ ภายในบ้าน ที่ต้องพึ่งพาความชำนาญและการประเมินจากผู้ที่มีประสบการณ์มาก่อน ซึ่งจะช่วยให้เราได้บ้านที่สวย สภาพสมบูรณ์ตามต้องการ และประหยัดเงิน ไม่เกินงบ
และที่ขาดไปไม่ได้ของการรีโนเวทผนังบ้านคือ การซ่อมแซม เตรียมพื้นผิว และทาสีให้ครบทั้งระบบสีรองพื้นและสีทับหน้า เนื่องจากผนังปูนเก่าที่ผ่านกาลเวลามานานย่อมเสื่อมสภาพและมีอายุการใช้งานลดลง จึงต้องการการปกป้องที่ยาวนานหลายสิบปีจากผลิตภัณฑ์สีต่าง ๆ เพื่อให้ความทนทาน แข็งแรง สวยงามคงอยู่กับเราไปนาน ๆ แม้จะได้ชื่อว่าบ้านมือสองก็ตาม
