รู้หรือไม่… ต้นไม้ 1 ต้น ช่วยพิทักษ์โลกได้อย่างไร?

วันสืบ นาคะเสถียร

" เนื่องด้วย 1 กันยายน วันสืบ นาคะเสถียร วันแห่งจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของวงการอนุรักษ์ในไทย
เบเยอร์ขอร่วมเป็นหนึ่งในผู้สานต่ออุดมการณ์ที่อยากปกป้องพื้นป่าและสัตว์ป่า และเจตนารมณ์ที่อยากปลุกจิตสำนึกให้สังคมไทยมองเห็นถึงคุณค่าของสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน "

 

จากสถานการณ์ป่าไม้ในปี 2566-2567 ประเทศไทยมีพื้นที่ป่าไม้อยู่เพียง 101,818,155.76 ไร่ หรือคิดเป็น 31.47% ของพื้นที่ประเทศเท่านั้น โดยเราสูญเสียพื้นที่ป่าจากปี 2565 ถึง 317,819.20 ไร่ ลดลงมากที่สุดในรอบ 10 ปี ซึ่งถือเป็นปัญหาที่สำคัญมาก โดยเฉพาะหากยิ่งเรารู้ว่า ต้นไม้ 1 ต้น ช่วยโลกได้อย่างไร 

การสูญเสียของพื้นที่ป่าส่งผลอย่างไรกับเรา? หากจินตนาการเป็นภาพเราจะพบว่า ป่าที่สูญเสียไปเท่ากับพื้นที่ดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ลดลง นั่นทำให้คาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งเป็นต้นตอหลักของภาวะเรือนกระจก สู่โลกร้อน และกำลังเข้าขั้นโลกเดือดในปัจจุบัน ยังคงสะสมในโลกของเราปริมาณมาก จนส่งผลกระทบต่อทุกชีวิตบนโลกอย่างสาหัสและอาจยิ่งทวีความรุนแรงมากหากเราไม่เริ่มต้นรักษ์โลกเสียที

 

ทำไมต้นไม้ 1 ต้น พิทักษ์โลกได้

หนึ่งในทางเลือกเพื่อความอยู่รอดของโลก ที่เราทำได้เลยนั่นคือการปลูกต้นไม้ แม้ว่าไม่อาจช่วยชดเชยพื้นที่ป่าที่เสียไป แต่ก็ช่วยเพิ่มพื้นที่เล็ก ๆ ให้โลกได้พักหายใจ โดยต้นไม้ 1 ต้น ช่วยโลกได้มากกว่าที่เราคาดคิด ดังนี้

  • ดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เฉลี่ย 9-15 กิโลกรัม/ปี ซึ่งต้นไม้ในป่าเขตร้อนดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 23 กิโลกรัม/ปี
  • ดักจับฝุ่นและมลพิษในอากาศได้ เฉลี่ย 1.4 กิโลกรัม/ปี
  • ดูดซับก๊าซที่เป็นพิษต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม เช่น คาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) หรือ ไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2)
  • ดูดซับความร้อนจากบรรยากาศ ลดอุณหภูมิรอบบ้านได้ 2-4 องศาเซลเซียส (°C)
  • ปล่อยก๊าซออกซิเจนได้ถึง 200K-250K ลิตร ซึ่งรองรับความต้องการของมนุษย์ได้ 2 คน/ปี

ต้นไม้ 1 ต้นช่วยอะไร

 

หากต้นไม้เพียง 1 ต้น สามารถช่วยเราและโลกได้ขนาดนี้ก็ถึงเวลาที่เราจะร่วมมือทำให้โลก กลับมาน่าอยู่อีกครั้ง ซึ่งปัจจุบันไม่เพียงไปปลูกต้นไม้จากในสถานที่จริง ร่วมกิจกรรมปลูกต้นไม้รักษ์โลกกับหน่วยงานต่าง ๆ หรือการปลูกต้นไม้ออนไลน์ 

การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำก็มีส่วนช่วยและเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ได้เช่นกัน อย่าง สีเบเยอร์คูล (BegerCool) นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554–2567 (ปัจจุบัน) ช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากถึง 336,600,000 KgCO2e เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้โตเต็มวัย 5,550,000 ต้นเลยทีเดียว ซึ่งผลลัพธ์ที่เป็นไปได้นี้เกิดขึ้นจากการคิดค้นพัฒนาผลิตภัณฑ์สีที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญในทุกกระบวนการตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ ตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบ การผลิต การขนส่ง ไปจนถึงมือผู้บริโภค และยังคิดไกลไปจนถึงการจัดการหลังใช้งานเสร็จสิ้นด้วย

ดังนั้น หากไม่มีเวลาไปปลูกต้นไม้ก็ให้เริ่มรักษ์โลกด้วยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่รักษ์โลกอย่างแท้จริง ไม่เฉพาะสีเบเยอร์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงสิ่งของที่ใช้ในชีวิตประจำวัน โดยอาจเลือกวัสดุรีไซเคิลมาใช้ หรือใช้สิ่งที่มีอย่างหมุนเวียนและคุ้มค่ามากที่สุด เพื่อให้แน่ใจว่าน้ำมือของเราทุกคนจะไม่ทำร้ายโลก และจะร่วมส่งต่อโลกที่น่าอยู่สู่อนาคตต่อไป

 

ป่าไม้

SHARE :
Please select the search topic and type related keywords