TH | EN

วิธีซ่อมแซมและแก้ไขปัญหาสีบ้านหลังน้ำท่วม คู่มือฉบับมืออาชีพ

น้ำท่วม นอกจากจะสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมแล้ว ยังส่งผลโดยตรงต่อ “บ้าน” ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยหลักของทุกคน โดยเฉพาะในแง่ของ “พื้นผิวและสีบ้าน” ที่มักได้รับความเสียหายอย่างหนักหลังน้ำลด เช่น สีลอก พอง เชื้อรา หรือสนิมโครงสร้างเหล็ก

บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจ ปัญหาใหญ่ 4 ประการ ที่เจ้าของบ้านต้องเผชิญหลังน้ำท่วม พร้อมแนวทาง ซ่อมบ้านหลังน้ำท่วม อย่างถูกวิธี เพื่อฟื้นฟูบ้านให้กลับมาแข็งแรง สะอาด และสวยงามดังเดิม

1. แก้ไขปัญหาคราบน้ำ คราบโคลนสะสม

ปัญหา:

หลังน้ำลด บริเวณผนัง พื้น และฝ้าเพดานมักเต็มไปด้วยคราบโคลน คราบน้ำ คราบตะกอนที่แห้งเกรอะกรัง ซึ่งอาจทำให้พื้นผิวสกปรก มีกลิ่นอับ และเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค

วิธีแก้ไข:

  • ล้างพื้นผิวด้วยน้ำสะอาดร่วมกับแปรงขัดแบบขนแข็ง
  • ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อเพื่อฆ่าเชื้อราที่ฝังอยู่ในร่องลึก
  • เปิดให้อากาศถ่ายเท
  • สำหรับผนัง ให้รอให้แห้งอย่างน้อย 3-5 วัน ก่อนเริ่มงานซ่อมสี หรือทาสีใหม่

ผลิตภัณฑ์แนะนำ:

Beger Mouldfree M-001: น้ำยาฆ่าเชื้อราและตะไคร่น้ำที่สามารถกำจัดเชื้อได้ถึงราก พร้อมช่วยป้องกันการกลับมาอีก

2. แก้ไขปัญหาสีลอกล่อน โป่งพอง

ปัญหา:

ความชื้นที่ซึมเข้าสู่ผิวผนังจะดันชั้นสีให้หลุดร่อนหรือพองตัวขึ้น สีเก่าไม่สามารถยึดเกาะผนังได้อีก และการทาสีทับบนสีเดิมที่พองอาจทำให้ปัญหาลุกลาม

วิธีแก้ไข:

  • ขูดลอกสีที่ลอกหรือพองออกให้หมด
  • ล้างผิวผนังด้วยน้ำและปล่อยให้แห้งสนิท
  • ใช้รองพื้นกันชื้นเพื่อปิดกั้นความชื้นจากภายใน
  • ทาสีใหม่ที่มีคุณสมบัติยึดเกาะดี ทนความชื้น

ผลิตภัณฑ์แนะนำ:

  • Beger Unisoft 9119: น้ำยาลอกสีคุณภาพสูง ลอกง่ายไม่ทำลายพื้นผิว
  • Beger Aqua Block W-009: รองพื้นกันชื้นสูตรน้ำ ไม่มีกลิ่นฉุน เหมาะกับผนังภายใน
  • Beger Water Block W-010: ซึมลึกถึง 35% เหมาะกับฐานรากหรือผนังรับน้ำ
  • Beger Pro Quick Primer B-1900: แห้งไว รองพื้นสูตรน้ำสำหรับงานด่วน

3. แก้ไขปัญหาเชื้อรา ตะไคร่น้ำ และกลิ่นอับ

ปัญหา:

เมื่อมีความชื้นสะสม เชื้อรา ตะไคร่น้ำ จะเติบโตได้รวดเร็วภายใน 48 ชั่วโมง และสามารถแพร่กระจายบนพื้นผิว สี ผนัง หรือฝ้า ทำให้เกิดรอยดำเขียว กลิ่นเหม็น และปัญหาสุขภาพ เช่น ภูมิแพ้หรือหอบหืด

วิธีแก้ไข:

  • ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อเฉพาะจุด โดยฉีดพ่นแล้วปล่อยทิ้งไว้ตามคำแนะนำ
  • ขัดด้วยแปรงเพื่อขจัดคราบ
  • ปล่อยให้แห้งก่อนทำการซ่อมสี
  • ใช้สีรองพื้นและเคลือบผิวที่มีคุณสมบัติป้องกันเชื้อราในอนาคต

ผลิตภัณฑ์แนะนำ:

  • Beger Mouldfree M-001: สูตรฆ่าเชื้อราถึงราก สำหรับใช้ทั้งภายนอกและภายใน
  • Beger A-100 Water Repellent Gloss / A-200 PU Hybrid: เคลือบใสกันชื้น ป้องกันเชื้อราบนผนัง/พื้น

4. แก้ไขปัญหาสนิมเหล็กและโครงสร้าง

ปัญหา:

โครงสร้างเหล็ก เช่น รั้ว ประตู หน้าต่าง หรือโครงสร้างเสริมแรง มักเกิดสนิมหลังแช่น้ำ ส่งผลต่อความแข็งแรงและความปลอดภัยของบ้าน

วิธีแก้ไข:

  • ใช้แปรงลวดหรือเครื่องขัดสนิมทำความสะอาดผิวเหล็ก
  • ลงสีรองพื้นกันสนิมหรือสีเคลือบป้องกัน 2-in-1
  • เลือกสีที่ทนแดด ทนน้ำ และเหมาะกับการใช้งานภายนอก

ผลิตภัณฑ์แนะนำ:

  • Bull Rust Tech 2IN1: สีรองพื้นและสีทับหน้าในหนึ่งเดียว สำหรับโครงสร้างเหล็กทั่วไป
  • BegerShield Griptech 2IN1: สีเคลือบเหล็กสูตร High Gloss Hybrid ป้องกันสนิม 4 เท่า แห้งไว ไม่ต้องรองพื้น

ฟื้นฟูบ้านหลังน้ำท่วมให้สวยงามและปลอดภัย ต้องเริ่มต้นด้วยการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ และเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับผิวแต่ละประเภท
เลือกใช้ผลิตภัณฑ์คุณภาพจาก Beger เพื่อการซ่อมบ้านอย่างมืออาชีพ

SHARE :
Please select the search topic and type related keywords