
Beger Super Gold สีทองเกรดพรีเมียม เงางาม คงทน เหมาะกับทุกพื้นผิว “สีทอง” เป็นสัญลักษณ์ของความหรูหรา สง่างาม และคุณค่าเหนือกาลเวลา ไม่ว่าจะใช้ในงานตกแต่งบ้าน วัด หรือสถาปัตยกรรมต่าง ๆ แต่เบื้องหลังความเงางามของทองคำบนผนังหรือเฟอร์นิเจอร์นั้น กลับซ่อน “ศาสตร์แห่งความละเอียด” ที่หลายคนอาจไม่รู้ — เพราะหากเลือกสีผิดสูตร สีทองที่เคยเปล่งประกายอาจกลายเป็นสีหมอง ลอกล่อน หรือซีดจางในเวลาไม่นาน
Beger Super Gold จึงถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ทุกงานตกแต่งที่ต้องการ “สีทองที่สวยเหมือนทองแท้” ทั้งในแง่ของความเงางาม ความทนทาน และการยึดเกาะกับพื้นผิวอย่างแน่นหนา ไม่ว่าจะเป็น งานปูน งานไม้ หรือเหล็ก ก็สามารถโชว์ความแวววาวระดับพรีเมียมได้อย่างมั่นใจ
ด้วยเทคโนโลยีฟิล์มสีสูตรพิเศษจาก Beger ที่ป้องกันการซีดจางจากแสงแดดและสภาพอากาศ พร้อมเฉดสีทองคำที่เปล่งประกายสมจริง ทั้ง Swiss Gold และ European Gold สีทองของคุณจะคงความงาม เงางาม และหรูหราไปได้ยาวนาน
ทำไม “สีทอง” ถึงลอกง่าย?
การเลือก สีทอง (Gold Paint) สำหรับงานตกแต่ง ไม่ได้เป็นแค่เรื่องของความสวยงาม แต่ยังเกี่ยวข้องกับ ความคงทน การยึดเกาะ และความเหมาะสมกับพื้นผิว หากเลือกสูตรไม่ถูกต้อง สีอาจซีดจาง ลอก หรือไม่เงางามตามต้องการ
สาเหตุหลักมักเกิดจาก:
- เลือกประเภทสีไม่เหมาะกับวัสดุ
- ใช้ทินเนอร์ผิดชนิด
- ทาสีชั้นกลางไม่เรียบเนียน
เพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ Beger แนะนำการเลือกใช้สีทองที่ถูกประเภท พร้อมระบบการทาที่ถูกต้อง เพื่อให้สีทองคงความสวย เงางาม และติดทนนาน
ประเภทของสีทองและการใช้งานที่เหมาะสม
สีทองคำมีทั้งหมดมีทั้งหมด 3 ประเภท ควรเลือกใช้ให้เหมาะกับการใช้งานหรือผิววัสดุนั้นๆ ได้แก่
1. สีทองคำสูตรน้ำ เหมาะใช้กับพื้นผิวปูน - คอนกรีต ทั้งภายในและภายนอก
2. สีทองคำสูตรน้ำมัน ชนิดแห้งช้า เหมาะใช้กับพื้นผิวไม้ - เหล็ก ทั้งภายในและภายนอก
3. มีทองคำสูตรแลกเกอร์ ชนิดแห้งเร็ว เหมาพใช้กับพื้นผิวไม้ - เหล็ก แนะนำใช้เฉพาะภายใน
ทั้ง 3 ประเภทจะมีสีทองคำมีเฉดสีทองคำ 2 ชนิดให้เลือกใช้ คือ 1. เฉดสีทองคำสวิส (Swiss Gold) 2. เฉดสีทองคำยุโรป (European Gold)
สูตรน้ำ
สูตรน้ำมัน
สูตรแลคเกอร์
ในระบบงานสีทองคำทั้ง 3 ประเภท จำเป็นต้องทา - พ่นสีชั้นกลางก่อนเสมอโดยจะมี 2 เฉดสี (สีแดง และ สีเหลือง) ให้เลือกใช้ และต้องเลือกใช้สีชั้นกลางเฉพาะรุ่นที่ใช้กับสีทับหน้าเท่านั้น - คลิกเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม
สีรองพื้นสูตรน้ำ
สีรองพื้นสูตรน้ำมัน
ในส่วนของของสีรองพื้นชั้นแรก กรณีพื้นผิวใหม่ ไม่จำเป็นต้องใช้สีรองพื้นสามารถใช้สีชั้นกลางทาได้เลย แต่กรณีพื้นผิวปูนเก่าควรใช้สีรองพื้นอเนกประสงค์ เบเยอร์ โปร ควิก ไพรเมอร์ บี-1900 ก่อนทาสีชั้นกลางและสีทับหน้าทองคำต่อไป
ปัญหาที่พบบ่อยครั้งในระบบสีทองคำ
| ปัญหา | สาเหตุ | วิธีแก้ |
| สีทองลอก | เลือกสูตรไม่เหมาะกับพื้นผิว | เลือกสูตรน้ำหรือน้ำมันสำหรับงานภายนอก |
| สีทองหมอง ไม่เงา | ทาสีชั้นกลางไม่เรียบ / ใช้ทินเนอร์ผิด | ใช้ทินเนอร์เฉพาะรุ่น (M-199, M-1188, M-77, M-5588) |
| สีซีดจางเร็ว | ใช้สูตรแลกเกอร์กับงานภายนอก | ใช้สูตรน้ำหรือสูตรน้ำมันแทน |
FAQ – คำถามที่พบบ่อย
Q1: สีทองซีดจางง่ายหรือไม่?
A: หากเลือกสูตรไม่เหมาะสม เช่น ใช้แลกเกอร์กับงานภายนอก สีอาจซีดเร็ว ควรเลือกสูตรน้ำหรือสูตรน้ำมันสำหรับงานที่โดนแดดฝน
Q2: วิธีทาสีทองไม่ให้หมองต้องทำอย่างไร?
A: ต้องทาสีชั้นกลางให้เรียบเนียนและใช้ทินเนอร์ตามที่แนะนำ ฟิล์มสีจึงจะเงางามสม่ำเสมอ
Q3: สีทองภายในกับภายนอกใช้ต่างกันหรือไม่?
A: ใช่ สีทองสำหรับภายนอกควรใช้สูตรน้ำหรือน้ำมันที่ทนแดดฝน ส่วนงานภายในสามารถใช้สูตรแลกเกอร์เพื่อความเงางามได้









